[Swatches] เปิดกรุ สีชมพู ของอุ๋มบ้าง :)

สวัสดีค่ะ สวัสดีค่าา :) Welcome on board ค่าา

          กลับมาอีกแล้วค่ะ กับบล๊อก Swatch โชว์สีลิป คราวนี้เปลี่ยนจากเวอร์ชั่นสีแดงสุดพลัง มาเป็นสีชมพู เปิดกรุของอุ๋มเองนะคะท่านผู้โดยสาร เอ้ยยย!! ท่านผู้โชมมมม ฮ่าๆๆ ยังคงคอนเซ็ปต์พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเลยค่ะ เพราะว่า อุ๋มทาสีเหล่านี้นี่ละไปบิน เอาให้เข้ากับชุดไทย ต้องชมพูเด็ดๆ ชมพูเด้งๆ ค่ะ แต่ก็มีหลุดชมพูอ๊อนอ่อนมาบ้าง เอาไว้ผสมกับสีอื่นๆ ค่ะ 

          อุ๋มเชื่อว่าต้องมีสาวๆ ทั้งที่อ่านบล๊อกของอุ๋ม และที่ติดตามแฟนเพจ ที่มีความฝันอยากโบยบิน ที่กำลังอ่านอยู่แน่ๆ วันนี้จึงขอควักกระเป๋า หิ้วลิปสติกสีชมพูออกมา Swatch และ Review เบาๆ ค่ะ สีชมพูนี่ สาวหวาน หรือ สาวเปรี้ยวก็ทาได้นะคะ เริ่มกันเลยดีกว่า

          ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับเที่ยวบิน สู่ดินแดนปากชมพู ในบล๊อกนี้เลยค่ะ

Cabin Crew Prepare for Take off ,,,,

          ตอนนี้กำลังอินกับสีชมพูค่ะ คิคิ เปลี่ยนแนวจากแดง มาเป็นชมพู เดี๋ยวต่อไปจะหยิบ สีนู้ดๆ มารีวิวอีก หลังๆ ไม่ค่อยได้ทาปากแดงแล้ว หน้าดุมากกก แต่ถ้าอยากดูรีวิวทาปากสีแดงแจ่มๆ ก็ตามมาอ่านได้นะคะ คลิกเลย 

          มาดูกันเลยดีกว่าค่ะ รีวิวนี้ไม่ได้เรียงตามความชอบนะคะ คว้าๆ มาจากที่อยู่ในกระเป๋าเลย เริ่มมม :)

Etude House : "Etude Pink"

        เริ่มด้วยชมพูนม ชมพูเจ้าหญิงที่สุด แท่งนี้ จาก Etude House เลยค่ะ อุ๋มได้รับตอนไปงานครบรอบ 11 ปี ของ Etude House Thailand แต่ไม่ค่อยได้หยิบมาทา ตัวนี้ชื่อสีว่า Etude Pink ทาแล้วเป็น สีชมพูใสๆ วิ๊งๆ เนื้อนุ่มๆ คล้ายลิปกลอส เนื้อนุ่มสุดๆ ต้องทา 2 ชั้น สีถึงจะติดชัดค่ะ ทาแล้วปากไม่แห้ง อุ๋มชอบทาแล้วแตะด้วย Tint สีแดง หรือ สีชมพูตรงกลางริมฝีปาก หรือบางทีเวลาปากแห้ง ก็หยิบออกมาทาในวันง่ายๆ สบายๆ ได้เลยค่ะ

        แท่งสวยมากกกกก เจ้าหญิงมากกก ตรงส่วนที่ฟูฟ่อง สามารถถอดได้นะคะ แห่ะๆ แต่อุ๋มชอบอ่ะ มันน่ารัก ฟรุ๊งฟริ๊ง มั่กมากกก

Lime Crime : Vegan Lipstick "Geradium"

        ได้ชื่อว่า LimeCrime สีต้องโดดเด่นอยู่แล้ว สีนี้ชมพูขึ้นมาอีกระดับ เป็นชมพู๊ ชมพู ทาแล้วปากโดดเด่นมากค่ะ เนื้อแวววาว แค่กรีดตา ทาปากสีนี้ก็เอาอยู่ค่ะ เป็นแท่งที่สีติดทนมากอีกตัวหนึ่ง

        ตัวแท่งดีไซน์น่ารักมาก เป็นรูป Unicorn สีเงินบนแท่งสีชมพูบานเย็น น่ารัก น่าพกง่ะ

L'oreal Paris : Color Riche "P511"

        ชมพูจาก L'oreal แท่งนี้ เป็นชมพูที่ปลื้มที่สุดค่ะ เพราะ เป็นชมพูเนื้อแวววาว สี Skocking Pink โดนใจสุดๆ ทาแล้วระวังติดฟันด้วยนะคะ ก่อนออกจากบ้าน เช็คฟันนี๊สสส

        ที่สำคัญเป็นสีชมพูที่เข้ากับ Uniform ของอุ๋มที่สุดค่ะ มันใช่เลยง่ะ สวยมั่กๆ ทาแล้วปากโดดเด้ง วันไหนแต่งตาเข้มทาแล้วเปนี้ยวสุดๆๆ แต่วันไหนแต่งหน้าอ่อนๆ ก็กลายเป็นลุคชิคๆ ได้ด้วยค่ะ

        อุ๋มพกแท่งนี้ไปบินบ่อยๆ ค่ะ เพราะ ทาแล้วอยู่ยาวป๊ายยย

3 Concept Eyes : Lip Pigment "Electro Pink"

          ถ้ากำลังมองหา ลิปสติก สีชมพูเรืองแสง สะท้อนแสง เนื้อแมท ติดนาน ติดทน แบบคงกระพัน เวอร์ชั่น เจ้มจ่นนนน สีชมพูอิเล็คทรอนิกส์ สุดๆ!!! 

          อุ๋มแนะนำให้เดินเข้าช๊อป Stylenanda และถอย 3CE Lip Pigment ตัวนี้เลยค่าา ชื่อสี Electro Pink นั้นช่างเหมาะเจาะยิ่งนัก ตอนทาแนะนำให้ใช้พู่กันปาดๆๆ เลยนะคะ เนื้อสีแน่นลืม 

          แต่แต่แต่ ทาแล้วปากแห้งนะคะ ตบด้วยกลอสใสซักนิดจะเวิร์คค่ะ

Mistine : Joops!! Color Rich "07"

          ถูกและดีมีอยู่จริง แนะนำหลอดนี้เลยค่ะ มิสทีน ออกอะไรมาให้ปลื้มอยู่เรื่อยๆ จริงๆ หลอดนี้สีคล้ายกับ L'oreal ด้านบนแต่มาในรูปแบบ Tube ค่ะ ตัวนี้เป็นชมพูเนื้อแววาว และเหนียว กว่าของ 3CE ค่ะ กลิ่นของลิปดีมาก คือปลื้มนะ ราคาก็น่ารัก

Mistine : Joops!! Color Rich "01"

          ส่วนเบอร์ 1 รุ่นเดียวกันกับ มิสทีนด้านบนนั้น เป็นชมพูอ่อนกว่าค่ะ สีนมๆ มากกว่า น่ารักกว่า แต่แซ่บน้อยกว่าน้ะ! ใจให้เบอร์ 7 พูดเลย 5555

          แต่ต้องยอม พก 2 หลอดนั่นละ เพราะว่า บางทีก็อยากดูซอฟท์ใสบ้างค่ะ สีนี้น่ารักกรุบกริบ เนื้อดี ราคาได้ อีกเช่นเคย :)

         

Nars : Velvet Matte Lip Pencil "Roman Holiday"

          มาถึงตัวสุดท้ายย เป็น Matte Lip Pencil สีชมพูนมน๊มนมเย็น จาก NARS ค่า Roman Holiday แท่งนี้สีอ่อนมาก เหมาะอก่การเอาไปทาทับสีเข้ม ทาผสม หรือ แต้ม Tint กลางริมฝีปาก ทาเปล่าๆ อาจดูป่วยได้ ยกเว้น กรณีแต่งตาสโม้กกี้ขั้นสุด อาจยอมรับได้ค่า แต่เนื้อดี๊ดี ตามสไตล์ NARS ทาแล้วไม่ถึงกับฉ่ำวาว แต่ว่าไม่แห้ง ไม่เยิน ไม่ได้ปกปิดสีริมฝีปากขนาดนั้น ด้วยสีที่อ่อนมาก แต่ทาวันเบาๆ เริ่ดค่ะ

,,,, Cabin Crew Prepare for Landing 

จบแล้วค่า สำหรับลิปสติกสีชมพูที่ใช้ๆ อยู่ตอนนี้ ประเด็นคือที่เหลือจอดอยู่ตามกระเป๋าใบต่างๆ หาไม่เจอบ้าง ละลายติดแท่งไปแล้วบ้าง เกรงว่ามาถ่ายละจะไม่สวย รออัพเดทคอลเลคชั่นใหม่จะดีกว่า

เดี๋ยวถ้ามีอีก จะมาอัพเดทต่อนะคะ หวังว่าเที่ยวบินนี้คงทำให้สาวๆ มีอะไรให้ออกไปช๊อป อิอิ และมีประโยชน์นะคะ ไม่ได้ใส่ราคาไว้เลย เพราะว่า จำราคาไม่ได้เลยซักอันค่ะ โว้ สมองสั่นแท้ แห่ะๆ 

ว่ากันใหม่ในบล๊อกหน้านะคะ เลิฟๆ จุ๊บๆ อย่าลืมมาแชร์กันบ้างนะคะ ว่าสีชมพูที่สาวๆ ชอบ คือ สีอะไรจากยี่ห้อไหนค่า

แล้วเจอกันนะคะ ม๊วฟฟ

บ๊ายบายยย :)

[Review] คอนแทคเลนส์ ACUVUE® 1· DAY ACUVUE DEFINE with Lacreon™

         สวัสดีค่ะ อัพเดทกันซะนิดหน่อยล่าสุดนี้อุ๋มมีโอกาสไปร่วมงาน เปิดตัวคอนแทคเลนส์ ACUVUE® 1· DAY ACUVUE DEFINE with Lacreon™ คอนแทคเลนส์ตัวแรกของเมืองไทยที่รวมเอาประสิทธิภาพด้านสุขภาพดวงตาและความงามเข้าไว้ด้วยกัน กับเทคโนโลยี Lacreon™ (ลาครีออน)  นวัตกรรมที่ช่วยล็อคความชุ่มชื้นในเนื้อเลนส์ได้ถึง 20 ชั่วโมง ช่วยให้ชุ่มชื่นสบายตาตลอดระยะเวลาการสวมใส่ จาก บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน วิชั่นแคร์ ค่ะ

         ภายในงานก็มีการให้ความรู้ด้านดวงตา จาก พญ. ดวงดาว  ดวงนำสว่าง จักษุแพทย์จากโรงพยาบาลรัฐชั้นนำของเมืองไทย และยังให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ พร้อมแนะเทคนิคในการดูแลสุขภาพดวงตาสำหรับผู้ใช้คอนแทคเลนส์ทั้งเพื่อความงาม และเพื่อการมองเห็นที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังได้พบกับ คุณแต้ว ณฐพร ดาราสาวที่ใช้คอนแทคเลนส์ของ ACUVUE® เช่นกัน ตัวจริงสวย น่ารัก ตาบลิ๊งๆ มากๆ ค่ะ

         "ความสวยงามของดวงตาควรมาพร้อมกับสุขภาพตาที่แข็งแรง โดยทั่วไปคอนแทคเลนส์ เพื่อความงามมีหลากหลายชนิด แต่หากคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีที่สุดของดวงตา การเลือกใช้คอนแทคเลนส์เพื่อความงาม ชนิดเปลี่ยนรายวัน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ต้องการแนะนำ เนื่องจากสามารถใช้แล้วถอดทิ้งได้เลยเมื่อสิ้นสุดวัน พร้อมกับมองหาเทคโนโลยีและปัจจัยที่ช่วยให้ความสบายตากับดวงตาอื่นๆ ร่วมด้วย อาทิ เทคโนโลยีคอนแทคเลนส์เพื่อความงามที่ป้องกันชั้นสีไม่ให้กระทบดวงตาโดยตรง เพื่อลดอาการระคายเคืองตา สามารถเก็บกักความชุ่มชื่นในเนื้อเลนส์ตลอดวัน  และคอนแทคเลนส์ที่มีส่วนผสมของสารป้องกันรังสียูวี  เป็นต้น

         นอกจากนี้ ควรใส่คอนแทคเลนส์ก่อนแต่งหน้า และ ล้างมือทุกครั้งก่อนหยิบเลนส์ สิ่งสำคัญที่สุดที่อยากฝากไว้คือ เรื่องของการใส่คอนแทคเลนส์สี เพื่อความงามที่ใช้หรือซื้อมาจากร้านค้าที่ไม่ได้รับมาตรฐาน  โดยไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใส่คอนแทคเลนส์สี เพื่อความงามหรือ ร่วมกันกับผู้อื่น เพราะคอนแทคเลนส์ถือเป็นอุปกรณ์ส่วนตัว การใส่คอนแทคเลนส์ร่วมกันอาจเป็นการแพร่เชื้อโรคและเป็นสาเหตุให้ตาบอดได้ในที่สุด"

ข้อมูลข้างต้น จาก แพทย์หญิงดวงดาว ดวงนำสว่าง ที่มาให้ความรู้ด้านดวงตาภายในงานค่ะ

*ตัวกล่องในรูปเป็นผลิตภัณฑ์ Tester นะคะ*

         เทคโนโลยีใหม่ๆ ของคอนแทคเลนส์ ACUVUE® 1· DAY ACUVUE DEFINE with Lacreon™ ตัวนี้ คือ Beauty-Wrapped-In-Comfort (BWIC) ซึ่งมีการวางชั้นสีระหว่างชั้นเลนส์ ปลอดภัยและมั่นใจได้ว่าเนื้อสีจะไม่มีโอกาสหลุดลอก เหมือนที่เคยเป็นข่าวอยู่ช่วงนึง น่ากลัวมากค่ะ แต่เลนส์นี้ไม่ต้องกลัวแน่นอน สวยแล้ว ต้องสวยอย่างมั่นใจ ใส่ใจสุขภาพตาเยอะๆ นะคะ มีอยู่คู่เดียว เสียหายไป ซ่อมยากน้า

และ ที่ปลื้มมากๆๆ เพราะ คอนแทคเลนส์มีส่วนผสมของ สารป้องกันรังสียูวี ทำให้สามารถป้องกันรังสียูวีเอ และ รังสียูวีบี เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการใช้ชีวิตท่ามกลางแสงแดดจ้าของเมืองไทย ทั้งบนดิน และบนฟ้า ตอนบิน เพราะตอนทำงานอุ๋มไม่มีโอกาสได้ใส่แว่นกันแดดแน่นอนค่ะ เรียกได้ว่าคุณสมบัติครบครันตอบโจทย์การใช้งานมากๆ

ที่สำคัญที่สุด คือ เทคโนโลยีเก็บกักความชุ่มชื่นได้ยาวนาน ที่เป็นเอกลักษณ์ Lacreon™ Technology (ลาครีออน เทคโนโลยี) ที่สามารถเก็บกักความชุ่มชื่นไว้ในเนื้อเลนส์ได้ 20 ชั่วโมง ช่วยให้ชุ่มชื่นสบายตา ใส่แล้วสบายตา ดูสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อดวงตาสวยเปล่งประกายตลอดวัน ไม่ต้องมากระพริบตา ปริบๆๆๆๆ เวลาตาแห้ง เรียกน้ำตาทั้งวันน

          อุ๋มมีปัญหา สายตาสั้น ค่ะ และเวลาไปบินใส่แว่นระหว่างเสิร์ฟไม่ได้ เลยต้องใส่คอนแทคเลนส์ตลอดเวลา ปัญหาของอุ๋มคือ ตาอุ๋มจะแห้งมากๆ เวลาปฏิบัติงานบนเครื่องบินค่ะ เนื่องจากอากาศบนเครื่องแห้งมากๆ เวลาเลือกคอนแทคเลนส์คือลำบากมาก บางทีก็ต้องใช้น้ำตาเทียมบ่อยๆ แล้วเวลาเสิร์ฟ ไม่มีเวลามาหยอดตา ก็จะทำให้เกิดความลำบากตามมาค่ะ

         หลังจากที่ได้ใช้ ACUVUE® 1· DAY ACUVUE DEFINE with Lacreon™ ตัวนี้แล้ว อุ๋มจึงมา รีวิวสั้นๆ ดังนี้ค่า 

         ครั้งนี้อุ๋มลองใส่ในขณะปฏิบัติงานบนไฟล์ทบินที่มีชั่วโมงบินนานพอสมควรค่ะ   หลังจากได้ใช้ ACUVUE® แล้ว ระหว่างไฟลทมีหยอดตาบ้างค่ะ เพราะ อากาศข้างบนแห้งกว่าข้างล่างมาก ส่วนตอนไปเที่ยวได้ลองเอาไปใช้ จะอากาศหนาว หรืออากาศร้อน ลมแรง หรือฝนตก อันนี้ไม่มีผลเลยค่ะ ใส่ได้ทั้งวัน ไม่ต้องใช้น้ำตาเทียมเลย ชอบบบเลย ชอบมากก

         ACUVUE® 1· DAY ACUVUE DEFINE with Lacreon™  มีให้เลือกถึง 3 สีซึ่งถูกออกแบบให้กลมกลืนไปกับดวงตาตามธรรมชาติของผู้สวมใส่ เป็นทางลัดที่จะนำความเปล่งประกาย สดใสสู่ดวงตา ทำให้ดวงตาดูมีเสน่ห์มากขึ้น แบบไม่หลอก ไม่บิ๊กอาย ไม่น่ากลัวแน่นอนค่ะ แบบนี้ได้ทั้งสวยและมองเห็นชัดเจนขึ้นด้วยนะคะ โดย นี่คือ ทั้ง 3 สี 3 สไตล์ ดังนี้เลยค่ะ

Accent  (สีดำ) 

         สีดำทำให้ดวงตาคมชัดขึ้น อย่างมากค่ะ เวลาอุ๋มใส่สีดำ จะเป็นวันที่อุ๋มแต่งหน้าค่อนข้างเยอะ ทาปากแดงงี๊ คือเป็นลุคเข้มๆ ไปเลย แต่รู้สึกว่าตัวเองใส่แล้วตาแข็ง ทำให้ดูน่าดุ แต่สำหรับสาวๆ ที่ชอบสีดำ ลองดูนะคะ เลนส์ใส่สบายแน่นอน

Vivid (สีน้ำตาล) 

         สีน้ำตาลธรรมชาติ ทำให้ให้ดวงตาดูมีชีวิตชีวามากขึ้นค่ะ ในวันที่หน้าเหนื่อย ตาล้า ในวันที่ไม่แต่งหน้า หรือแต่งหน้าน้อยๆ อุ๋มจะเลือกใช้สีนี้ ใส่แล้วตาหวานฉ่ำมากก ใส่สีน้ำตาลตัวนี้ทีไรจะมีคนถามว่าใส่เลนส์ของอะไรค่ะ ส่วนตัวชอบสีนี้ที่สุด ใส่บ่อยที่สุดคือ เพราะ ปกติใช้เลนส์รายวันสีนี้อยู่แล้วค่ะ

Natural Shine™ (สีเทา ประกายทอง) 

         สีนี้ก็ทำให้ดวงตาดูมีมิติดีค่ะ ขอบเป็นสีเทาดำ ตรงกลางเป็นสีน้ำตาล อุ๋มใส่คู่นี้ไปทำงานบ้าง แต่ชอบสีน้ำตาลมากกว่า เพราะ เลนส์ตัดขอบดำ ทำให้หน้าอุ๋มดูเข้มละ แฮ่ แต่ตาไม่โตเกินไป โอเคอยู่ค่ะ

         โดยคอนแทคเลนส์ ACUVUE® 1· DAY ACUVUE DEFINE with Lacreon™ สามารถหาซื้อได้แล้ว ในราคากล่องละ 1,350 บาท ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายชั้นนำและร้านแว่นตาทั่วประเทศนะคะ

* ออกไปเที่ยวได้ไม่ต้องใส่แว่นแล้ว :) *

         จบแล้ววค่าา หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับสาวๆ ที่ชอบใส่คอนแทคเลนส์หรือกำลังเลือกคอนแทคเลนส์อยู่นะคะ ACUVUE® 1· DAY ACUVUE DEFINE with Lacreon™  เป็น 1 ในตัวเลือกที่ควรค่าเลยค่า สีสวย ใส่สบาย อุ๋มคอนเฟิร์มเลย วันนี้ไปละค่าา ออกไปหาซื้ออีกกล่องก่อนนน หมดแล้ววว :)

[Swatches] ทลายกรุ ลิปแดง ของสาวแอร์แบบดิฉันน!!

สวัสดีค่ะ สวัสดีค่าา :) Welcome on board ค่าา

          อุ๋มเองนะคะท่านผู้โดยสาร เอ้ยยย!! ท่านผู้โชมมมม ฮ่าๆๆ วันนี้มาในคอนเซ็ปต์พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเลยค่ะ เชื่อว่าสาวๆ ในนี้หลายท่านคงมีความฝันเดียวกับอุ๋ม และเชื่อว่าต้องมีสาวแอร์หลายๆ คนอยู่ในนี้เป็นแน่ วันนี้ขอหิ้วลิปสติกสีแดงที่ใช้ในการทำงานทุกๆ วันมา Swatch และ Review เบาๆ ค่ะ สำหรับสาวๆ ที่ชอบปากแดงน่าจะชอบ และหวังว่ารีวิวครั้งนี้จะมีประโยชน์นะคะ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับเที่ยวบิน ซึ่งนำทุกท่านสู่ดินแดนปากสีแด๊งแดง ในวันนี้ค่ะ

Cabin Crew Prepare for Take off ,,,,

อ๊างงง เก๊าชอบทาปากสีแดงมากเลยนะตัวว ^3^ นั่น !! เข้าเรื่องเถอะคุ๊ณณณณ

ป.ล. ลิปสติกก สีแดง เบื้องล่างนี้ ไม่ได้เรียงตามความรัก ความชอบ แต่อย่างใด แต่เรียงตามความใกล้มือ ได้ดังนี้ค่ะ

LANEIGE : R217 

        สีแดงอมชมพูค่ะ มาตามคอนเซ็ปเกาหลีเลยล่ะ แท่งนี้ สีใสๆ วิ๊งๆ เนื้อนุ่มๆ คล้ายลิปกลอส ต้องทาประมาณ 2 ชั้น สีถึงจะติดชัด ชอบที่ทาแล้วปากไม่แห้ง และไม่เป็นร่อง ด้วยอากาศบนเครื่องที่แห้งและเย็น ทำให้ปากแตกแห้งได้ง่ายมาก ลิปตัวนี้เอาอยู่นะคะ 

        แต่! ลบและเลือนลางจางหายง่ายมากๆ ค่ะ ต้องเติมบ่อยๆ เลย งี้อิฮั้นเสิร์ฟไปเติมปากไปได้ไหมค๊าา ,, ไม่ดีมั๊งคะน้อง

LOLA : VJ 

        แท่งนี้เป็น Lip Sheer สีสวยยยย ทาแล้วปากนุ่ม แต่ต้องทาแล้วทาอีกหน่อยนะคะ ทาหลายรอบกว่าสีจะชัดค่ะ เป็นแดงอมชมพูนิดๆ ลักษณะจะเป็นลิปกลอสซะมากกว่า

        ไม่แนะนำให้ทาไปทำงานค่ะ ทาไปเดินเล่น เติมบ่อยๆ จะเวิร์คกว่า เพราะทาแปร๊บบเดียวว นางหายไปจากปากซะแล้ว T-T เนื้อดี ส่วนกลิ่น เฉยๆ ค่ะ ตลับเกร๋มีกระจกด้วย เผื่อเดินไปเติมไป เพราะต้องเติมบ่อยนินุงง

MAYBELLINE : Red Porcelain 41 

        ทาสีนี้ทีไร บอกตรงๆ อุ๋มอยากจะร้องว่า "OH MY GOODNESS " /me ออกสำเนียงเต็มที่

        เพราะ สีนี้ แดงกว่าแดง ค่ะ ยังไม่เจอที่แดงกว่านี้เลยนะคะ อิฮั้นบอกตรงๆ ฮ่าๆๆๆ ทาแล้วสว่างจนดูเป็นแดงอมส้ม ทาแล้วฟันขาวทะลุล้ำ หน้าไบรท์จับแสงเลยทีเดียว ตามที่เค้าโฆษณาไว้เลยล่ะค่ะ ว่าเข้าได้กับทุกสีผิว เชื่อเค้าเถอะค่ะ ดูฟันเหลืองๆ ของอุ๋มยังขาวเลยค่ะ โอ๊มายก๊าชช ,,, ยังยัง ยังไม่เลิก !!

        แต่!! ด้วยความที่มันวาวมาก ฉ่ำมาก เหนียวมาก ทำให้ทายากจีจี ลองใช้พู่กันดู นะคะ ทาจากแท่งนี้สวยได้ยากฝุดๆๆ

MAKEUP FOREVER : Mat8

          ถ้าคุณกำลังมองหา ลิปสติก เนื้อแมท ติดนาน ติดทน แบบคงกระพัน อยู่ไปเถ๊อะไม่ต้องเติมเลยยยย ขอบอกว่ามาทางนี้ค่ะ เดินไปซื้อเลยค่ะ ที่เคาท์เตอร์ ที่ Sephora ที่ไหนก็ได้ที่มีแบรนด์นี้ค่ะ บอกกงๆ ใช้มานานมากๆๆๆๆๆ แล้วค่ะ ไม่หมดซักที เพราะไม่คิดจะเติมระหว่างวันเลยค่ะ อันนี้ไม่ได้เว่อร์ !! คือมันจะอยู่ยงคงกระพันไปไหนคะ อันนี้ใครเคยลองบ้างคะ ติดทนแบบอุ๋มไม๊คะ นึกว่ากาวตาช้างค่ะ !!

          แต่! ทายากแบบสุดดดดดดดดดดดๆๆ นะคะ เพราะด้วยความที่มัน เนื้อแมท ด้าน มากกก เวลาทาไป นี่ลากปากเปิกเบี้ยวเลยค่ะ แนะนำว่าทาลิปบำรุงก่อนป้ายนางลงบนปากนะคะ ไม่งั้นปากแห้งแตกอยู่ มีเลือดซิบๆ ค่ะ ทำเก๊าเจ็บมาหลายรอบแล้ว แต่พอทาเสร็จแล้ว ก็สุขสมค่ะ คือสวยทั้งวัน แต่ถ้าทาบนปากลอกๆ ก็สุขสมเช่นกันค่ะ ปากแห้งกรังทั้งวันไปค่ะ T-T /me หัวเราะทั้งน้ำตา

REVLON : MATTE LIPSTICK #006 Really Red

          ความสดของสีแดงนี้ ใช้ได้เลยค่ะ สีออกแดงอมส้ม เนื้อ Matte แต่ไม่ทำให้ปากด้านขนาดนั้นนะคะ ยังพอมีความเงาเล็กๆ อยู่ ทาแล้ว ติดทน สีสวย ไม่สร่าง กลบสีปากมิดในป้ายเดียว และติดทนค่ะ ที่สำคัญ ราคาสบ๊ายสบาย หาซื้อง่ายค่ะ ตามวัตสัน บู๊ทส์ ท๊อปส์ มีหมดดดด วันไหนลืมพกแวะหาซื้อได้เลยทุกที มีแน่นอนค่ะ :D

REVLON : SUPER LUSTROUS LIPSTICK 

#740 Certainly Red

          Super Lustrous Lipstick เนื้อแวววาวทะลุโลก ซึ่งทำให้เลอะฟันตลอดเว! เวลายิ้มให้ ผดส ถ้าถูกขำกลับมา ให้สันนิษฐานก่อนว่า ฟันตรูแดงอยู่แน่ๆ คร่าาา !!!

          แต่ต้องยอม เพราะว่าสีสวยมากที่สุด เป็น 1 ในแท่งที่เลิฟ และทาบ่อยที่สุด พกไปบ่อยที่สุด เพราะ เป็นสีแดงจริงๆ แดงล้ำ ทาแล้วหน้าขาว ฟันขาวค่ะ *my fav* 

         

REVLON : SUPER LUSTROUS LIPSTICK 

#650 Mulled Wine

          Super Lustrous Lipstick เนื้อแวววาวทะลุโลก อีกแท่งค่ะ อันนี้เป็นสีเกร๋ไกร๋อะแกรรร แบบออกเป็นแดงอมม่วงอมน้ำตาล บรั่บบ เหมือนไวน์ ชั้นชอบอะแกรร ฮ่าๆๆๆ เข้ากับชุดไทยได้ดีเชียวนะเออ

        แต่! ทาไปไหนมาไหนหม่อมแม่บอกว่าแก่ตลอดค่าา เอาไว้ทาไปทำงานเถอะนะ แม่กล่าวไว้

      

12 PLUS COLORISTA : #05 Red Berry

          ลิปสติกราคาสบายยยยยยมากกก สีสดมากกก เป็นแดงอมแดง 555 คือ แดงจริงๆๆๆ เนื้อลื่นๆ เห๊ย เนื้อลื่นมาก !! ทาง่ายสุดๆ ทาไปนี่บางทีเลยปากไปเลยนะ /me คว้าทิชชู่มาเช็ดแทบไม่ทัน ปากไม่แห้งกัง
้
         แต่! พอมาเนื้อแบบนี้ทีไร ก็หลุดง่ายนะคะ บางทีช่วงพักกินข้าว กินๆ ไปปุ๊บ อุ้วว !! ทำไมน้องอุ๋มเหลือแต่ขอบปากละคร้ะ เพราะ เนื้อแวววาวนี่ละ มาพร้อมกับความไม่ทน  แต่สีสวยนะ ราคาถูก เติมบ่อยๆ เอา เติมไปค่ะ หมดแล้วพอซื้อใหม่ไหวอยู่ :P

MAC : MATTE "FIXED ON DRAMA"

          แถมๆๆ อันนี้ทาไปทำงานไม่ได้หรอก แต่ช๊อบบบบบ สีแดงนางร้ายในการ์ตูนสุดๆๆๆๆๆๆ ตอนซื้อนี่กะว่าทาไปเที่ยวอย่างเดียวเลยค่ะ เพราะว่าเข้มมากๆๆ จริงๆ ออกเป็นแดงอมม่วงอมดำ เลยนะคะ แล้วเนื้อก็แมทได้อีก ปากแห้ง แนะนำให้ เผ่น ก่อนเลย

          ควร ,,, ทาลิปมันก่อนค่อยลงสีนี้นะฮับ สำหรับสาวๆ ที่สีเปรี้ยวๆ แหวกแนวหน่อยก็อยากให้ลองโทนนี้กัน แต่ว่าน่าจะเป็น Limited Edition อะสิ๊!! ลองสี DIVA ดูก็ได้นะคะ ยังไม่ได้ซื้อเลยย ต้องไปถอยเร็วๆนี้ละ !!

,,,, Cabin Crew Prepare for Landing 

หวังว่าเที่ยวบินนี้คงทำให้สาวๆ พึงพอใจนะคะ :D เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ สวัสดี และเจอกันใหม่นะคะ /me ลากกระเป๋า เผ่น ไปบินก่อนละ มีอะไรสงสัย ข้อติชม ยังไง คอมเหม็นได้เลยยย :D


ปล. ขอโท๊ดดด ที่จำราคาไม่ได้เลยซักกะแท่งนะคะ T-T บางแท่งถอยมานานมากแล้ว ฮืออ

บ๊ายบายยย :)

[REVIEW] Neutrogena คืนความชุ่มชื่นให้กับผิว ประสบการณ์ที่สุดของผิวอิ่มน้ำ

บล๊อกของอุ๋มในวันนี้ ขอนำเสนอ นี่เลยค่าาา :) Neutrogena 

ที่สุดของผิวอิ่มน้ำ มาเปิดประสบการณ์ผิวอิ่มน้ำไปพร้อมๆ กันกับอุ๋มนะคะ

พึ่งได้รับมาปุ๊บ แกะห่อปั๊บ ....

พอได้ลองใช้เท่านั้นละ เตรียมแพ๊คเอาไว้ใช้ตอนไปบินได้เลย คือชอบเนื้อของทั้ง 3 ตัวมาก อันนี้คือเซ็ทที่ Neutrogena ได้คัดสรรมาแล้วค่ะ ผิวอุ๋มแห้งมากๆๆ หลังๆ มา ยิงบินไกลขึ้น ยิ่งอาการหนักค่ะ ผิวหน้างี๊ทั้งบางทั้งแห้ง แต่พอใช้ครีม หนาๆ หนักๆ เกินไปก็เป็นสิวอุดตันซะอีกนะ แหม่ 

ว่าแล้วก็มาดูเจ้าของรางวัล The Cleo Beauty Hall of Fame 3 ปีซ้อน กันดีกว่าค่ะ

เริ่มต้นด้วยตัวแรก ได้แก่ Neutrogena Hydro Boost Water Gel 

กระปุกนี้ ขนาด 50g ราคา 820 บาท

ตัวนี้เป็น ขั้นตอนแรกของการบำรุง เพื่อให้ผิวอิ่มน้ำดูเนียนใส สุขภาพดี ดูฉ่ำน้ำค่ะ ใช้แล้วผิวฉ่ำแบบนี้ จีจี ดูสิ!! แล้วที่สำคัญซึมซาบง่าย แต่งหน้าต่อได้อย่างรวดเร็ว สบายอุ๋มล่ะ!! 

ต่อด้วย Essence ขวดนี้ Neutrogena Hydro Boost Essence

ขนาด 30ml ราคา 820 บาท

 เอสเซนต์เนื้อเข้มข้น ขวดหัวปั๊ม ตัวนี้ช่วยเติมน้ำให้ผิว ทาไปที่ผิวปุ๊บซึมปั๊บบ ทิ้งความรู้สึกฉ่ำๆ ไว้ค้ะ

และสุดท้าย Neutrogena Hydro Boost Night Concentrate 

ขนาด 50g ราคา 820 บาท

ตัวนี้ คือ Sleeping Pack ของ Neutrogena เป็นตัวช่วยให้ผิวได้รับการบำรุงแบบเข้มข้นตลอดทั้งคืน สารบำรุงนั้นเทียบเท่ามาส์ก 10 แผ่นเลยนะคะ ตื่นเช้ามาผิวเปล่งปลั่งแน่นอน ว่าแล้วก็ปาดดด ละนอนซะ

ลองแล้วทั้ง 3 ตัว ตามที่เห็น :) คือ ปลื้มปริ่ม หน้าใส หน้าฉ่ำ เดี๋ยวจะใช้ต่อไปจนหมดเลย ของเก่าหมดพอดี๊ทั้งเซ็ท ฮิฮิ ขอบคุณ Neutrogena อีกหนนะคะ จบแล้วรีวิว คริคริ มาลองกันๆ น้าา

[REVIEW] Miche Bloomin' Contact Lens

วันนี้ขอมารีวิวสั้นๆ เน้น โชว์รูป คอนแทคเลนส์ สัญชาติญี่ปุ่น ยี่ห้อนี้เลยค่ะ Miche Bloomin' ตัวนี้ก็มีหลายสี หลายรุ่นด้วยกันค่ะ ที่อุ๋มซื้อมาล่าสุดคือ Bronze Ash เป็นคอนแทคเลนส์ แบบ 1-Day ค่ะ

http://miche-bloomin-contact.jp/

คือชอบมากใส่มาหลายกล่องแล้ว แต่ยังลองไม่ครบทุกสี ใส่แล้วตาสวยมาก และที่สำคัญ คือ ใส่สบายค่ะ อุ๋มเคยเห็นร้านรับ Pre-order เข้ามา แต่ไม่ทราบราคาที่ไทยเลยค่ะ เพราะ ราคาที่นู่นก็สูงอยู่ ตัวนี้เป็น เลนส์ แบบรายวันค่ะ มีค่าสายตาด้วย

อุ๋มใส่ค่าสายตา -0.75 

B.C. 8.6

DIA 14.0

ราคา (ยังไม่รวม VAT) ตามนี้เลยนะคะ 

• 10 ชิ้น 5 คู่ : 1,630 yen (excluding tax)
• 30 ชิ้น 15 คู่ : 3,880 yen (excluding tax)
• 
  
• แต่ซื้อแต่ละทีไม่เคยเท่ากันเลย ปกติร้านที่ซื้ออยู่ 1,800 เยน ด้วย งืดด

รีวิวตัวเลนส์ บางมาก ใส่แล้วไม่หลอกเลย ตาขนาดเท่าดวงตาจริงๆ เพราะ DIA แค่ 14.0 เท่านั้นค่ะ อุ๋มใส่ใหญ่กว่านี้เมื่อไหร่ หน้าตาจะแปลกมาก เลยต้องเลือกเยอะหน่อย ค่าความอุ้มน้ำ หรือ B.C. 8.6 เลยทีเดียว ถือว่าสูงเลยค่ะ

อีกยี่ห้อที่สูสี คือ Acuvue ค่ะ เวลาใส่ไปบินแล้วไม่เคืองตา ถือว่าใช้ได้เช่นกัน

รุ่นที่อุ๋มชอบจะอยู่ใน Sheer Mysterious Brown Series โดยทุกแบบนั้นจะมีสีน้ำตาลผสมอยู่ เพื่อความเป็นธรรมชาติค่ะ เริ่มที่สีที่อุ๋มใส่เลย คือ ชอบแม๊กซ์ ชอบขนาดว่าไปเดินซื้อ 2 ที ก็หยิบสีเดิมกลับมา

"Bronze Ash"

อันนี้ตอนอุ๋มใส่ค่ะ เป็นแบบนี้เลยด้วยพื้นตาอุ๋มสีเข้มพอสมควรจึงไม่เห็นสีขนาดนั้นค่ะ แต่ว่าทำให้ตาดูแวววาว และแต่งหน้าแล้วสวยขึ้นอย่างมาก คือ ชอบมาก

ในคลิปนี้มีแสดงให้ดูว่า นางแบบหลายๆ คนใส่แล้วเป็นอย่างไรค่ะ สวยทุกคน ปลื้มลืม

"Misty Umber"

มีแต่คลิปมาให้ดู เพราะ สีนี้ยังไม่ได้ซื้อเลยง่า ตัวนี้เทียบได้กับ Freshlook สี Brown เลยฮะ เหมือนมาก

"Nudy Beige"

ตัวนี้สีคล้าย Freshlook สี Hazel Brown เลย เป็นสีน้ำตาลออกทองๆ คืองดงาม

อุ๋มได้ลองมาหลายยี่ห้อแล้ว แม้จะเป็นของประเทศญี่ปุ่น หลายๆ ยี่ห้ออุ๋มใส่แล้วก็ยังเคืองตาอยู่ดี นี่ก็คิดว่าอยากจะไปตรวจสุขภาพตาเหมือนกัน มีความรู้สึกว่า เวลาใส่คอนแทคเลนส์แล้ว ดวงตาด้านขวาจะเคืองกว่าปกติเสมอเลย อันนี้ใครมีข้อมูลบอกกันได้นะคะ ตัวนี้มีความคล้าย Freshlook มากๆ แต่ไม่มีสีมาบังตาเวลาใส่ค่ะ ใครชอบสีของ Freshlook ลองยี่ห้อนี้กันได้ น่าจะถูกใจเช่นกันค่ะ :) สาวๆ ตาสั้นแบบอุ๋ม อยากสวยก็ต้องอดทนนิดนึงง

ไปแล้วค่าวันนี้ จบการรีวิว เพียงเท่านี้ เดี๋ยวไปญี่ปุ่นครั้งหน้าจะซื้อมาให้ครบทุกสี เพราะยังมีอีกคอลเลคชั่นนึงของ Miche Bloomin' รออยู่อีก 3 สีด้วยกัน Impressive Brown Series ตัวนั้นจะธรรมชาติกว่านี้ แต่สวยเหมือนกัน และยังมีขนตาปลอมอีกกก รีวิวกันไม่ทันเล๊ยยย 

ขออนุญาตลากันไปก่อน เดี๋ยวกลับมาใหม่ :) เจอกันนะคะ อย่าลืมคลิกรูป ไปที่เพจเค้าด้วย 

[REVIEW] Nature Edition สครับหอม สัญชาติไทย

สวัสดีค่ะ วันนี้อุ๋มพึ่งแลนด์ลงมาเลย กลับบ้านพุ่งตัวเข้าห้องน้ำเลยเจอกับกระปุกนี้เข้า ลืมซะสนิทท ว่าเป็นตัวโปรด ด้วยบินไปบินมา บินมาบินไป ได้ดูแลตัวเองน้อยลงทุกทีๆ ครั้งนี้กลับบ้านเลยขอขัดขี้ไคล ดูแลผิวพรรณตัวเอง ซะหน่อยค่ะ 

ก่อนอื่นอุ๋มขอแนะนำให้รู้จักกับแบรนด์ไทยหน้าตาน่ารักชิ้นนี้ ถ้าเทียบผลิตภัณฑ์กับผู้หญิง ก็ต้องเป็นสาวสวยหอมหวานแน่ๆ ค่ะ แนะนำตัวกันเลยละกัน เธอชื่อว่า

ネイチャーエディション

Nature Edition
เนเจอร์ เอดิชั่น ค่ะ

สูตรนี้ที่อุ๋มมีอยู่ในครอบครอง คือ 

Nature Edition Thai Jasmine Rice Germ Cream Scrub

หรือ เนเจอร์ เอดิชั่น สครับจมูกข้าวหอมมะลิ เนื้อครีม 

ซึ่งเป็นสครับที่เหมาะกับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย จมูกข้าวมีคุณประโยชน์ครอบคลุมหลายด้าน และยังอุดมไปด้วยวิตามิน จะช่วยให้ผิวแลดูสุขภาพดีขจัดฝ้ากระจุดด่างดำและช่วยยับยั้งพร้อมแก้ปัญหารอย เหี่ยวย่นต่างๆ บนผิวกาย มีความอ่อนโยนเหมาะกับทุกสภาพผิว

ประโยชน์หลักๆ เลย : ทำให้ผิวสวยสุขภาพดี อ่อนนุ่ม ขี้ไคลหายเกลี้ยง และยังต่อต้านความชราของผิวได้อย่างดีเยี่ยม

เนื้อสครับ : สครับผิวกายเนื้อครีม เม็ดบีดธรรมชาติจากเม็ดวอลนัท และข้าวตาก

วิธีใช้ : ตักสครับลงบมผิวกายที่หมาดๆ หรือเปียกน้ำเล็กน้อย นวดเบาๆเป็นวงกลมจนทั่วร่างกาย ล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ว่าแล้วก็สครับให้แม่ด้วย และ ให้แม่สครับให้อุ๋มค่ะ จริงๆ สครับเองก็ได้นะ แต่ถือว่าเป็นกิจกรรมในครอบครัวของวันหยุดสุดสัปดาห์ละกัน จะได้นัดกันนวดๆ ขัดๆ สครับๆ ขี้ไคล ของสาวๆ :)

เริ่มเห็นขี้ไคล และ ชั้นหนังกำพร้าที่หลุดร่อนออกมาไหมคะ ขัดเสร็จก็ล้างตัวสครับ พร้อมทั้งขี้ไคลออกให้เกลี้ยง บอกเลยว่าผิวนุ่มชุ่มฉ่ำมากกกค่ะ สบายตัวสุดดๆ  บอกเลยว่าเริ่ดมากกกก กลิ่นของสครับลอยหอมตลบ ชอบมาก คุณแม่ก็ชอบมากเช่นกันค่ะ <3 อยากจะขอบคุณ Nature Edition อีกครั้งนะคะ ที่ส่งเจ้าสครับกระปุกนี้มาให้อุ๋มได้ลอง 

ปลื้มมากค่ะ

ให้ 10-10-10 เลยย

พูดถึงการสครับแล้ว ก็มาลองอ่าน ประโยชน์ของการสครับผิว ของเราเป็นประจำกันดูค่ะ

1.การสครับผิวจะช่วยให้ผิว กระจ่างใสขึ้นทันตาเห็น เพราะ การสครับจะช่วยนำสิ่งสกปรกต่างๆที่อยู่บนผิวออกไป แน่นอนว่าได้มากกว่าแค่การอาบน้ำด้วยสบู่ธรรมดา

2. เมื่อสครับสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขนออกไปแล้ว จะทำให้ผิวสามารถรับการบำรุงต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

3. การสครับขัดผิวเป็นประจำจะทำให้เรามีผิวที่เนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้านได้ดีกว่าการทาโลชั่นอีกด้วย เพราะเม็ดสครับไม่ว่าจะเป็นเกลือ ข้าวโอ๊ต หรือเม็ดวอลนัท มีสรรพคุณในการให้ความชุ่มชื้นและลดการหยาบกร้านได้เป็นอย่างดี ลองสครับของ Nature Edition สูตรอื่นๆ ดูด้วยนะคะ

4. การสครับผิวช่วยป้องกันผิวเหี่ยวย่นการเกิดริ้วรอย และยังช่วยให้ผิวตึงกระชับได้อีกด้วย

5. ช่วยลดรอยต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวให้จางลงได้ ไม่ว่าจะเป็นรอยสิว หรือจุดด่างดำ

6. ลดการเกิดสิวได้ดี เพราะจะนำพาสิ่งสกปรกต่างๆที่ตกค้างอยู่ออกไปได้อย่างหมดจด

7. ลดอาการแตกลาย เป็นคลื่น ผิวเปลือกส้ม (อุ๋มต้องขยันสครับมากกว่านี้ละ!!) อีกทั้งยังสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้เป็นอย่างดีมาสครับขัดผิวกันเถิดดดด

Credit ข้อมูลบางส่วนจาก http://shop.natureedition.com/

ถ้าหากสนใจอยากดูสูตรอื่นๆ ของ Nature Edition ตามมาทางนี้เลยค่า

Line : NatureEdition

[eng] http://natureedition.com

[thai] http://shop.natureedition.com

:)

ขอตัวไปสครับผิวก่อนนะคะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ