[HOW TO] นี้ สวยเวิร์คไม่แคร์แดด กับ NIVEA SUN Instant Whitening Serum

          ฮัลโล๋ ,, โอฮาโย โกไซอิมัสส ,, คอนนิจิวะ ,, คอนบังวะ!! // เอาให้ครบ 3 เวลาเลยเอ้า!!

          หลังจากที่ไม่ได้ทำ How To มานานแสนนานนน อุ๋มม กลับมาแล้วค่า กลับมากับลุคที่สัญญาไว้ ซึ่งก็คือ ลุคที่อุ๋มแต่งประจำเวลาไปลงนอนตาม Line Station หรือประเทศที่อุ๋มบินไปนอนนั่นเองค่ะ ลุคนี้ มาในคอนเซ็ป ง่ายๆ สบายๆ แต่ขนตาวิ๊งๆ แนว Kawaii เพราะ ลุคนี้อุ๋มทำตอนที่ไปบินที่ญี่ปุ่นนู้นนนค่ะ แน่นอนว่าไปญี่ปุ่นครั้งนี้อุ๋มไม่ลืมที่จะพก เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้าเก๋ๆ แต่พกง่าย และที่สำคัญอยู่ในจำนวนชิ้น และพื้นที่กระเป๋าที่จำกัด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องหิ้วกระเป๋าเครื่องสำอางหนักๆ ไปบินทุกไฟลท์ที่ต้องไปค้างคืนค่ะ

          ลองคิดดูสิคะ ว่า จะดีกว่าไหม ถ้าเราทั้งลดขั้นตอนในการแต่งหน้าได้ และ ลดจำนวนชิ้นของเครื่องสำอางได้ ไม้ตองแบกเป็นบ้าหอบฟางไปไหนมาไหนทุกที่ ที่ต้องไปลงนอน แค่เสื้อผ้าเครื่องใช้อื่นๆ ก็หนักพอแล้ว How To นี้อุ๋มจึงใช้เครื่องสำอางน้อยมากๆ ค่ะ ทั้งประหยัดที่ และ ประหยัดเวลาในการแต่งหน้าได้ด้วยค่ะ มีอะไรมาดูกันเลย

นางเอก ใน How To ครั้งนี้ก็ คือ NIVEA Sun Instant Whitening Serum ที่เป็นทั้งกันแดด SPF50 PA+++ ที่สำคัญ ยังช่วงป้องกันรังสี UVA1 ด้วยนะคะ ซึ่งเจ้ารังสี UVA1 นี่ร้ายมากๆ ทำร้ายผิวระดับลึก ต้นเหตุของฝ้าแดดด้วย อิอิ และนอกจากกันแดดแล้ว ยังสามารถใช้เป็น Make Up Base ได้เลยในขั้นตอนเดียว (ลดการแบกขนไปได้ 1 ชิ้น และลดระยะเวลาในการแต่งหน้าด้วยค่ะ)

อุ๋มเคยรีวิว เจ้าตัวนี้ไปแล้ว คร่าวๆ คลิกอ่านได้ ที่รูปเลยนะคะ 

มาเริ่มแต่งหน้าตามขั้นตอนกันเลยดีกว่าค่ะ

1.   เริ่มจากทา Moisturizer เพื่อบำรุงผิวตามปกติ ที่สาวๆ ใช้กันเลยนะคะ วันนี้อุ๋มใช้ Laneige Balancing Emulsion ตัวโปรด ส่วนขั้นตอนของ การทาครีมกันแดด และ Make Up Base อย่างที่บอก อุ๋มขอรวบเป็นขั้นตอนเดียวกันเลย เพราะกันแดดสูตรเซรั่ม จาก NIVEA  หรือ NIVEA Sun Instant Whitening Serum  ตัวที่อุ๋มพูดถึงไปนั้น สามารถใช้แทนเมคอัพเบสเนื้อบางเบา สำหรับวันออกเที่ยว สบายๆ แบบนี้ได้เลย ซึ่งตัวเซรั่มนั้นช่วยปรับให้ผิวหน้าดูขาวเนียนขึ้นมาระดับนึงได้ด้วยค่ะ หลังจากนั้นลงแป้งฝุ่นได้เลย ง่ายนิดเดียว

ทา Moisturizer และ เซรั่มกันแดด NIVEA Sun Instant Whitening Serum

หลังทาเซรั่มกันแดด ::

          เนื่องจาก NIVEA Sun Instant Whitening Serum มีส่วนช่วยในการปรับสภาพผิว หลังทา ซึ่งความรู้สึกหลังทา จะรู้สึกได้ว่าผิวฉ่ำๆ ทำให้ดูสุขภาพดีขึ้น แถมยังปกปิดจุดด่างดำและความหมองคล้ำของใบหน้าได้ด้วยค่ะ อุ๋มจึงข้ามขั้นตอนการลง Make Up Base ไปเลยค่ะ

2.   ต่อมาก็ลง Eyeshadow Base วันนี้อุ๋มใช้ NYX Eye Shadow Base เบอร์ ESB03 หรือ สี Skin Tone เจ้าเดิม เพื่อให้สี Eyeshadow นั้น ชัดขึ้น และ ติดอยู่บนเปลือกตาเราได้ทนนานทั้งวันค่ะ

3.   ขั้นตอนการลง Eyeshadow ลุคนี้อุ๋มใช้ Urban Decay Naked 1 ตัวดั้งเดิมเลยค่ะ ซึ่งเป็น Palette ที่อุ๋มชอบที่สุด สีที่อุ๋มเลือกใช้ในวันนี้ คือ สี Half Baked หรือ สีทอง และสี Darkhorse หรือสีน้ำตาลประกายทองค่ะ

 ลง สี Half Baked ทั่วทั้งเปลือกตาค่ะ

ช่วงหางตาใช้ สี Darkhorse เพื่อเพิ่มมิติให้ดวงตาค่ะ 

และโดยปกติอุ๋มใช้ สี Darkhorse + แปรงเขียนคิ้ว ในการเขียนคิ้วด้วยเลยค่ะ ลงหัวคิ้วบางๆ และเน้นสีเข้มตรงหางคิ้ว จบไปในขั้นตอนเดียวทั้งคิ้วและตาเลย

4.   หลังจาก ลง Eyeshadow เสร็จ ก็มาต่อกันด้วย การกรีดอายไลเนอร์ อุ๋มใช้ MAC Liquidlast Liner สีดำสนิท ตัวนี้ติดแน่นทนนาน สีดำชัดมากๆ และกันน้ำแบบมากๆ ค่ะ ใช้ตัวเดียวเขียนทั้งเส้นขอบตาด้านบน และใต้ตามาจนถึงกึ่งกลางตา ตามรูปเลยค่ะ ลุคนี้อุ๋มเขียนแบบไม่ตวัดหางมากนัก เน้นชี้หางไปทางหูมากกว่า หลังๆ ติดใจลุคนี้ เพราะทำให้ตาดูเฉี่ยวๆ ดีค่ะ

5.   มาเพิ่มความวิ๊งคาวาอี้ ช่วงใต้ตา กันซักนิด ด้วย Etude House Tear Drop Liner เบอร์ 1 สี White Tear ลากยาวจากหัวตาไปหางตาเลยค่า

6.   เรียบร้อยแล้วก็มาดัดขนตากันค่ะ วิธีดัดขนตา ให้เด้งงอนวับวับบ

- เริ่มจากมองต่ำ จากนั้นใช้ที่ดัดขนตาดัดไปที่โคนขนตา
- ระหว่างดัดขนตาออกแรงบีบไปที่โคนขนตา 3 ครั้ง จากนั้นค่อยๆ เคลื่อนจากโคนไปยังปลายขนตาอย่างช้าๆ เพื่อให้ขนตาโค้งงอน
- ผ่อนแรงบีบบริเวณปลายขนตาเพื่อให้ขนตางอนอย่างธรรมชาติ
* การดัดขนตาให้ได้งอนเด้งนั้น สำหรับ สาวที่ขนตาสั้น ควรดัด 2 ขั้นตอน คือชิดโคนขนตา และปลายขนตา ส่วน สาวที่ขนตายาว ควรดัดขนตา 3 ขั้นตอน ชิดขอบตา กลางขนตา และปลายขนตา ค่ะ

7.   ดัดขนตาเรียบร้อยพร้อมติดขนตาปลอมค่ะ กาวติดขนตาปลอมถอยมาใหม่จากร้านขายเครื่องสำอางทั่วไปในญี่ปุ่นเลยค่ะ ยี่ห้อ D.U.P. Eyelash Fixer EX. ที่ได้รับการจัดอันดับจาก @Cosme ด้วยนะคะ มีหลอดยาวอันนึง สั้นอันนึง พกง่ายดีด้วยอ่า เนื้อกาวใสๆ พอแห้งแล้วติดแน่นสุดๆ ราคาประมาณ 300 บาท ค่ะ

“D.U.P. Eyelash Fixer EX”

และ ขนตาปลอม จาก Shiseido เบอร์ V4 ขนยาวเน้นตรงหางตา แต่ทุกเส้นละเอียดเล็กมาก แกนบางสนิท!! เลิฟฟฟอ่ะ ธรรมดาไม่เคยใช้ขนตาปลอมแบบมียี่ห้อเลย แต่ถอยมา 3 กล่องรวดเลยค่ะ เบอร์นี้ กล่องละประมาณ 400 บาท ที่ร้านทั่วๆ ไปที่ญี่ปุ่นเลย ชอบมากจริงจัง

ทากาวทิ้งไว้ 5 วินาที ให้กาวเซ็ทตัวแล้วติดโลดค่า เริ่ดดดด เฟ่อออ บอกเลย

8.   ติดขนตาปลอมเสร็จ อุ๋มมักจะปัดขนตาตามค่ะ แต่สำหรับขนตาคู่นี้อุ๋ม ปัดแค่ขนตาล่าง เท่านั้น เพื่อเพิ่มลุค Dolly Dolly ค่ะ แค่นี้ก็อยู่เลย เพราะขนตาฟู่ฟ่าอยู่แล้ว

          เสร็จแล้วอ๊า เห็นไหม บอกแล้วง่ายนิดเดียวค่ะ ดูไม่เยอะเว่อ แต่งได้ทุกวันจริงๆ น๊า แต่ถ้าขนตายาวไปลองเบอร์ที่สั้นกว่านี้ก็ได้ หรือจะไม่ติดเลยก็ได้ค่า ใช้ปัดขนตาเยอะๆ เอาก็ช่วยได้เหมือนกันค่ะ

          สำหรับลุคง่ายๆ ในวันนี้ก็สำเร็จเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ ยังไงก็ต้องขอบคุณ NIVEA SUN สำหรับ NIVEA Sun Instant Whitening Serum ตัวนี้ที่ทำให้การแต่งหน้าของอุ๋ม ง่าย และประหยัดเวลา รวมทั้งประหยัดพื้นที่กระเป๋า มากขึ้น

            ก่อนจะ โอยาซุมินาไซ บ๊ายบาย กัน ถ้ารักลุคนี้ ชอบเมคอัพแบบนี้ ก็อย่าลืมมาแชร์ลุค เตรียมความพร้อมก่อน “ออกทริปสองล้อ” (หรือ 2 ปีก) ของอุ๋มได้ในกิจกรรม "25 LOOKS สวยเวิร์คไม่แคร์แดด" ด้วย บอกเลยนะคะว่ามีโอกาสได้รับ NIVEA Sun Perfect Protect ครีมกันแดดตัวเจ๋งนี้ไปใช้กันฟรีๆ เลยนะคะ หรือมีสิทธิ์ลุ้นรับ Central Gift Card มูลค่า 5,000 บาท แค่แต่งลุคตาม โจทย์ประจำสัปดาห์ แล้วส่งรูปเข้ามาอวดกันผ่าน application อย่าพลาดกันน้า

          วันนี้ไปเที่ยวก่อนละ บ๊ายบาย แล้วเจอกันใหม่กับลุคหน้า นะคะ อาริกาโตะ โกไซอิมัสสส (ขอบคุณมากนะค๊ะ) และ จา มาตาเนะ นะคะ (แล้วเจอกันใหม่ค่า)

ป.ล. ภาษาญี่ปุ่นถามมาลูกเดียว ถูกมิถูกล่ะนี่ ><" ฮ่าๆๆๆ เวลาอยู่บนไฟลท์ ถามแค่ว่า โคฟี โคชะ อูล่งชะ แค่นั้นจริงๆ !!! ใครเก่งๆ มาสอนอุ๋มบ้างนะคะ ครุคริงุงิ

Eat Clean Project by PP # 01 สลัดจานนี้ ของอุ๋ม

          สวัสดีตอนเที่ยงพอดี๊ พอดี ค่ะ วันนี้ไม่ได้มารีวิวเครื่องสำอางค์นะคะ แต่เห็นถามกันมาว่าอุ๋มทานอะไรช่วงนี้ เห็นลงรูปสลัดบ่อยๆ ใน อัลบั้มที่ชื่อ Eat Clean Project by PP ในเพจ PannitaP Blog ของอุ๋ม จริงๆ ไม่มีสูตรอะไรเลย ไม่ได้เอาศาสตร์ มาจากไหนเลยค่ะ อุ๋มแค่อยากทานผัก ผลไม้เยอะๆ และงดเว้นการทานเนื้อสัตว์เลย (อันนี้อุ๋มไม่ทานเนื้อสัตว์มาปีนึงแล้วค่ะ พึ่งเริ่มกลับมาทานเนื้อปลาเร็วๆ นี้) ก็เลยเริ่มเลย เพราะว่าตั้งแต่บินมา ออกกำลังกายน้อยลง นน.เด้งขึ้นเอา ขึ้นเอา แบบบอกไม่ถูกเลย ,,, อ้วนนั่นเอง ฮื่อ ซึมแป๊บบ!!

กินผักกกันนนนน ,, น้ำสลัดเยอะไปป่าวพี่! บางทีออกไปกินนอกบ้านก็เลือกไม่ได้ T-T

         ไม่รู้จะแชร์อะไรดี วันนี้เลยจะมาบอกว่าใน 1 ถ้วยสลัดมีอะไรแทนแล้วกัน อุ๋มเน้นทานผักสดที่ไม่ผ่านการปรุงใดๆ ค่ะ เป็นผักสลัดใบเขียว และผักอื่นๆ หลากสี เช่น แครอท ฟักทอง พริกหวาน มะเขือเทศ ฯลฯ แต่ต้องบอกก่อนว่าอุ๋มเป็นมนุษย์ชอบทานผักทานหญ้าอยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาใดๆ ในการกลืนผักจำนวนมากขนาดนี้เลย สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่ชอบอาจจะคิดว่ามันยากซักหน่อย แต่มาดูกันค่ะ ว่าใน 1 ถ้วยสลัดของอุ๋มมีอะไรบ้าง

แน่นอนว่าสิ่งแรก คือ ผัก ๆ ๆ ๆ ผัก ผัก ค่ะ ผัก หลากหลายชนิด ที่อุ๋มชอบ หลักๆ เลยคือ ...

- ผักกาดคอส (Cos Lettuce, Romaine Lettuce)

          ผักกาดคอสมีชื่อเรียกมากมายทั้ง ผักกาดโรเมน ผักกรีนคอส เบบี้คอส บ้างก็เรียก ผักกาดหวาน เป็นผักที่เรียกได้ว่า ป๊อบมากในหมู่ผักสลัด เพราะว่า มีรสชาติขมน้อยมาก แต่มีความกรอบ และเบา สามารถนำไปทำเป็นซีซาร์สลัดได้ นอกจากนี้ผักกาดคอสยังอุดมไปด้วย วิตามินซี มีไฟเบอร์สูง โพรแทสเซียม และกรดโฟเลตก็สูงไม่แพ้กันด้วย

          นอกจากจะเป็นผักที่มีวิตามินสูงแล้ว ยังมีธาตูเหล็กช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดง (Hemoglobin) ในร่างกาย ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง ผักสลัดคอสยังมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตเพียง 3% เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน และยังช่วยในเรื่องการขับถ่ายอีกด้วย

          ตัวแรกนี้อุ๋มใช้เป็นเมนหลักเลยค่ะ กินครั้งนึงประมาณ ต้นนึงได้ เพราะชอบมากๆ

          แรกๆ เหมือนใน Supermarket จะแพง ปจบ. ที่ Foodland ต้นละประมาณ 20 ฟ่าบาทค่ะ สู้ไหว!

- ผักกาดแก้ว (Iceberg Lettuce)

           แค่ชื่อผักกาดแก้วก็บ่งบอกได้ถึงความกรอบกรุบๆ ของผักชนิดนี่แล้วเนอะ แถมผักกาดแก้วเองก็มีความหวานอยู่ในตัวอีกด้วย จึงเป็นผักอีกชนิดที่นิยมรับประทานเป็นผักสลัด ส่วนเรื่องคุณค่าอาหารก็ไม่ต้องพูดถึง ผักกาดแก้วอุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินเอ วิตามินซี โพรแทสเซียม กรดโฟเลต และสารอาหาร รวมทั้งแร่ธาตุที่มีประโยชน์ด้วย

           ราคา : อันนี้คุณพ่อมักเป็นคนซื้อ หนูไม่ทราบบ

- ผักเรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค (Red Oak, Green Oak)

         2 สิ่งนี้ คือ อร่อย แต่แบบหายากต้องไปซื้อตามห้างนะ ผักเรดโอ๊ค กรีนโอ๊คมีทั้งสีแดงและสีเขียว ลักษณะใบหยักโค้งมน มีรสหวานกรอบ มาดูประโยชน์กันบ้าง

         เรดโอ้ค (Red Oak) : ประโยชน์ – มีธาตุเหล็กและวิตามินซีสูง มีกากใยอาหารมาก ย่อยง่าย ช่วยบำรุงสายตา บำรุงกล้ามเนื้อ (เคยได้ยินว่าพี่ๆ ที่เล่นกล้ามเค้าทานกันนะคะ) บำรุงผิวพรรณ ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก และยังช่วยล้างผนังลำไส้ กำจัดพวกไขมันและอนุมูลอิสระที่เกาะตามผนังลำไส้ อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ได้

         กรีนโอ้ค (Green Oak) : ประโยชน์ - ช่วยบำรุงสายตา บำรุงเส้นผม บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อ บำรุงผิวพรรณ ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ให้เส้นใยอาหาร ขจัดอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคปากนกกระจอก ป้องกันโรคหวัด

บางทีก็ทานแต่ผักเขียวๆ นี่ล่ะ กับ น้ำสลัดงาแบบญี่ปุ่น ราดงารัวๆ คือ อร่อยย

- แครอท

         ประโยชน์ - อุดมไปด้วยสารอาหาร อย่าง แคลเซียมโพแทสเซียม วิตามิน C, A (โดยร่างกายจะแปรเปลี่ยนจาก Beta Carotene) ซึ่งมีประโยชน์กับสายตา ผิวพรรณ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย แครอทยังมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ เพื่อผลลัพท์ที่ดีแครอทควรรับประทานสด ๆ อุ๋มชอบทาน แครอทน้อย หรือ เบบี้แครอท กรอบบดีจริงๆ กรุบกรุบบ

         สำหรับแคลอรี่ในแครอทนั้นก็อยู่ที่ประมาณไม่เกิน 50 แคลอรี่ต่อ 100 กรัม ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขที่เยอะแยะอะไรเลย ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องมากังวลถึงเรื่องปริมาณ

         อุ๋มซื้อเป็นห่ออย่างในรูปเลยจาก Foodland ค่ะ

- แตงกวา

         ประโยชน์ - มีสารอาหาร ได้แก่ วิตามินซี กรดคาเฟอิก กรดทั้ง 2 นี้ป้องกันการสะสมน้ำเกินจำเป็นในร่างกาย เปลือกแตงกวามีกากใยอาหาร และแร่ธาตุจำเป็นต่างๆ โดยมีพลังงานต่ำเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ทานไปเลยย ทานเถอะ คือดี ชุ่มช่ำ ดีด้วย แต่เข้าใจนะคะว่าบางคนไม่ชอบกลิ่นของแตงกวา จริงๆ ข้ามไปก็ได้ ตอนแรกๆ อุ๋มก็ไม่ทานเลย พักหลังๆ มา หาอะไรไม่ได้ก็งับๆ แตงกวาไปก่อน ทานได้ไปเองอ๊ะ

มื่อง่ายๆ คือ แตงกวาสดๆ ล้างสะอาด กับน้ำพริกปลาทูถ้วยเล็กซักถ้วย ฟินไป

- มะเขือเทศ

         ประโยชน์ - สารไลโคฟีน (Lycopene) เป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ที่มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และช่วยในการป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย สารไลโคฟีนนี้มีประสิทธิ ภาพเหนือว่าสารเบต้าเคโรทีน และสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์อื่น ๆ ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่มดลูกและปอด ยังพบอีกว่า สาร ไลโคฟีนนั้น สามารถช่วยลดโอกาสความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในต่อมลูกหมากได้ มากถึง 21% 

         มะเขือเทศยังช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระตุ้นน้ำย่อย ช่วยย่อยอาหาร และยังช่วยการระบายการขับถ่ายให้สะดวกขึ้นอีกด้วย นอกจากวิตามินซีที่มีสูงในมะเขือเทศแล้ว วิตามินอื่น ๆ ก็มีอยู่ครบทุกชนิดด้วย 

         อุ๋มชอบทานมะเขือเทศอยู่ 2 พันธุ์ คือ มะเขือเทศราชินี และมะเขือเทศเชอร์รี่ ค่ะ

มะเขือเทศเชอร์รี่จะลูกกลมๆ แบบนี้ค่ะ

ส่วนถ้วยนี้เป็น มะเขือเทศราชินี กรุบกรอบบ

- แอปเปิ้ล

         บางทีอุ๋มก็หั่นๆ แอปเปิ้ล เขียวบ้าง แดงบ้างลงไปในสลัดด้วย ให้รสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ เพิ่มความสดชื่อดีค่ะ ชอบทานพันธุ์จาก South Africa ที่สุด กรอบ และ หวานมาก แต่ยิ่งหวานก็ยิ่งน้ำตาลเยอะ ฮือ แต่ชอบอ่ะ ฮ่าๆ ขอทานหน่อย แต่หลีกเลี่ยงการทานน้ำผลไม้นะคะ น้ำตาลเยอะมากกก ประโยชน์น้อยกว่าด้วย

อุ๋มมักจะจัดผักเป็นถ้วยๆ แล้ว Wrap แช่ตู้เย็นไว้ทานแต่ละมื้อ :)

- เต้าหูโมเมน

สถานที่ซื้อ : ท๊อปส์ซุปเปอร์มาเกท หรือ ที่อื่นๆ ก็น่าจะมีนะคะ ราคา : 25 บาทวิธีการกิน : อุ๋มทานสดเลย แบ่งทานได้ 3-4 ครั้ง กับสลัด ค่ะเก็บได้ : 1 เดือน แต่ปกติ 3 วันหมดแล้ว 

รายละเอียดเพิ่มเติมม 

         โมเมน โทฝุ เป็น เต้าหู้เนื้ออ่อนนิ่ม ซึ่งกรรมวิธีในการผลิตสมัยก่อนนั้น จะใช้ผ้าฝ้ายมากรองน้ำเต้าหู้ ในตอนที่เทลงใส่แม่พิมพ์ น้ำเต้าหู้จะไหลผ่านผ้ากรองได้เร็วกว่าผ้าไหม ทำให้ได้เต้าหู้เนื้อนิ่ม ลักษณะของเนื้อเต้าหู้ .... คล้ายเต้าหู้ที่บ้านเรา แบบที่เค้าตัดแบ่งเป็นก้อน ๆ ขายตามตลาดสดนะคะ

นี่คือ เต้าหู้โมเม้นประมาณ 1/4 ก้อนค่ะ หั่นบางๆ โปะลงบนผัก อร่อยยย

- งาดำ และ งาขาว

         ประโยชน์ - งามีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย คือ กรดอะมิโนเมธิโอนีน ตอนช่วงมังสวิรัตอุ๋มก็ทานงานี่ละค่ะ ไปเพิ่มโปรตีนให้ร่างกาย โดย

การรับประทานงาดำเพื่อให้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด ก็คือการรับประทานงาดำเป็นอาหาร แทนที่จะรับประทานงาดำที่เป็นสารสกัด โดยวิธีที่ดีที่สุดก็คือการรับประทานด้วยวิธีการเคี้ยวจะได้ประโยชน์มากที่สุด แต่งามีแคลอรี่สูงนะคะ ทานก็ต้องระวังกันด้วยน้า

         แต่อุ๋มชอบทานมาก โรยหน้าสลัดทุกมื้อเลย แห่ะๆ

และนี่ก็ คืออ วัตถุดิบต่างๆ ที่อุ๋มใส่ไว้ในสลัดค่ะ แต่ไม่ได้ใส่ทุกอย่าง ในทุกจาน นะ วันไหนหาอะไรได้ก็ทานอันนั้นละ จะได้ไม่ยุ่งยากจนเกินไป แล้วก็ไม่ทานถ้วยใหญ่มากจนเกินไป แต่เอาจริงๆ ทานใหญ่ และ เยอะมากไม่ได้หรอก มันจุกนะ ฮ่าๆ ผักอัดแน่นได้เหมือนกัน แรกๆ จะรู้สึกว่าไม่อิ่ม ลองทานใบผักเขียวๆ เปล่าๆ ดู รับรองว่าอิ่มเอง ,, 

ส่วนน้ำสลัด อุ๋มชอบทานน้ำสลัดญี่ปุ่นค่ะ 

อันนี้เป็น ขวดที่ชอบที่สุด ลองทำทานเองอยู่ เดี๋ยวถ้าได้สูตรที่สมบูรณ์จะมาปล่อยย :)

และอีกอันคือ ขวดนี้ค่ะ น้ำสลัดแบบงาคั่ว คืออร่อยสุดๆๆๆ ><" แคลอรี่สูงมาก!! แต่ชอบ

พยายามลดอยู่ จริงๆ ว่าจะทานแต่ผักเปล่าๆ แล้วนะ แต่มันอดไม๊ได้

ใช้วิธีทานน้อยๆ เอานะคะ อย่าใส่เพลิน ลืมตัว ทานผักก็ไม่ช่วยนะคะ!!

ฮ่าๆๆๆ วันนี้พอแค่นี้ก่อน บล๊อกยาวเฟรื๊อยยยย ละคะ :) แล้วเจอกันใหม่บล๊อกหน้าน๊า น่าจะกลับมาในเรื่องนี้อีกหน เรื่องหาของกินตามพอร์ทต่างๆ ที่ไปนอน จริงๆ มันมีของ Healthy ให้ทานทุกที่ แต่อุ๋มไม่เลือกที่จะทานเลย จนกระทั่งหลังๆ นี่ล่ะค่ะ !! ไม่งั้นน้ำหนักจะบู้มมม กลับมาอ้วนตัวแตกได้หรอ!! แล้วเจอกันใหม่ค่ะ จุ๊บๆๆ

วันนี้คุณทาน สลัด แล้วหรือยัง?

REVIEW : La Vita Facial Serum ความงามจากการมีสุขภาพดี๊ดี

สวัสดีค่ะ สวัสดีค่ะ ว่างเว้นจากงานก็มาอัพบล๊อกบ้าง :)

ช่วงนี้มีคนถามมาเยอะ ทั้งใน PannitaP Blog Page และ ทั้งกับตัวเลย ว่าอุ๋มดูแลผิวยังไงบ้าง เพราะวันที่ไปบิน อุ๋มต้องแต่งหน้าเยอะ และ MAKE UP ต้องอยู่บนผิวหน้าเป็นเวลานาน ก็ต้อง ตอบ เลยค่ะว่า อุ๋มเน้น พักหน้าในวันที่ไม่บินค่ะ เพราะฉะนั้น วันไหนไม่บิน อุ๋มก็จะใช้แต่ SKINCARE และ ครีมกันแดด เท่านั้นเลยค่ะ ยังไงลองมา สวยโดดเด่น ไม่เน้น MAKE UP กันดูนะคะ ช่วงนี้ 

อย่างแรกเลย คือ เริ่มจากการดูแลผิวของเรากันเลยค่ะ

ช่วงนี้อุ๋มเลยได้ลอง SKINCARE ใหม่ๆ หาที่เหมาะสมกับผิวหน้า หลายสิ่งเลย จึงอยากมารีวิว SKINCARE น้องใหม่ ในรูปแบบ FACIAL SERUM ที่พึ่งตีตลาด  แต่เป็น น้องใหม่ที่มีคุณสมบัติ เพรียบพร้อมเชียวนะคะ ไม่แน่ใจว่า เคยได้ยินชื่อกัน รึยัง นั่นก็คือแบรนด์

" La Vita " 

นั่นเองค่ะ

เอ๊ะๆ มาดูความหมายของ คำว่า La Vita กันซักนิด เป็น เกล็ดความรู้ จากเพจ ของ La Vita ค่ะ

"ความงาม จากการมี สุขภาพดี" 

อั๊ยยย คือ เข้า คอนเซ็ปช่วงนี้ของอุ๋มเลย 

La Vita Vital Bright Serum ตัวนี้ 

หรือ ชื่อเต็มๆ หน้าขวด ว่า 

La Vita Vital Bright ECa 233 Innovative Premium Extract Facial Serum

นี่ล่ะคะ ที่จะมารีวิวกันในวันนี้

เอ๊ะ แล้ว ECa 233 นี่เป็นชื่อ วิทยาศาสตร์ ของอะไร ตามมาดูกันนะคะ

เริ่มจากรูปแบบบรรจุภัณฑ์ กันเลย

La Vita Vital Bright Serum ขวดนี้บรรจุ มาในกล่องสีเขียวอ่อน พร้อมรายละเอียดข้างกล่อง

ตัวขวด เป็นสีเขียว หัวปั๊ม ดูน่าใช้เชียวค่ะ ขวดนี้ บรรจุ 30 ml. ค่ะ

ด้านหลังขวด มีตราประทับว่า อายุการใช้งาน ไม่เกิน 6 เดือน หลังเปิดใช้นะคะ

มาดูกันดีกว่าว่าข้างกล่อง เค้าว่ายังไงกันบ้างค่ะ

La Vita เค้าเคลมมาเลยว่า ..... Vital Bright Serum ประกอบด้วยสารต่างๆ ซึ่งมีคุณสมบัติ ดังนี้ค่ะ

• สาร ECa 233 สารสกัดพิเศษจาก ใบบัวบก (Centella asiatica Extract) ที่มีประสิทธิภาพสูง ผลงานวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ลดริ้วรอยบนใบหน้า ลดรอยแผลเป็นจากสิว

• สาร Sulforaphane จาก Swiss garden Cress Sprout Extract นำเข้าจากประเทศสวิสเซอแลนด์ ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส ต่อต้านการสร้างเม็ดสี ปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ทำให้หน้าเนียนใส

• สารสกัดผลมะขามป้อม (Emblica Officinalis Fruit Extract) ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออก เพื่อผิวกระจ่างใส หน้าเรียบเนียนขึ้น

• สาร Alpha Mangostin จาก เปลือกมังคุด (Garcinia mangostana Peel Extract) ช่วยยับยั้งเชื้อ P. acne ต้นเหตุของการเกิดสิว

• สารสกัดเห็ดยุโรป Fomes Officinalis (Mushroom) Extract ช่วยสมานผิว กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนแลดูเล็กลง

• Vitamin A+E+C ในรูปแบบ Glycosphere นวัตกรรมการนำส่งสารสำคัญ โดยเก็บสารออกฤทธิ์สำคัญไว้ในวัสดุทรงกลมขนาดนาโน ช่วยปกป้องสารสำคัญจากสภาวะแวดล้อมภายนอก ให้สารมีความคงตัวสูงขึ้น และด้วยคุณสมบัติของ Glycosphere เองที่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ดี จึงช่วยพาสารออกฤทธิ์ให้ซึมลึกลงไปในชั้นผิวได้ลึกขึ้นและทรงประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม

*สารเรตินอล (Retinol) : อนุพันธ์ของวิตามินเอ ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนูมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ยังผลให้ผิวเปล่งปลั่งแลดูอ่อนเยาว์

**กรดแอสคอร์บิคแอซิด (Ascorbic Acid) : อนุพันธ์ของวิตามินซีทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยต้านอนุมูลอิสระกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน ปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันผิวนำมาซึ่งผิวขาวเนียนกระจ่างใส ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยสิวอย่างเห็นได้ชัด

***สารโทโคฟีรอล (Tocopherol) : อนุพันธ์ของวิตามินอีทำหน้าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการอักเสบและรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยซ่อมแซมพร้อมยืดอายุเซลล์ผิวให้ยาวนานขึ้น ทำให้ผิวนุ่ม มีสุขภาพดี แลดูอ่อนเยาว์

ว่าแล้วก็ลอง ปั๊มม La Vita Vital Bright Serum ออกมาจากเจ้าขวดสีเขียว

เนื้อของ La Vita Vital Bright Serum เป็นสีขาวขุ่นๆ บางเบาแบบสุดๆ เมื่อสัมผัสกับผิว ให้ความรู้สึกเย็นๆ ลื่นๆ ผิวค่ะ มีกลิ่นอ่อน เหมือนกลิ่นพืช ให้ความรู้สึกธรรมชาติๆ ไม่มีกลิ่นน้ำหอมฉุน ที่เตะจมูกเลย ลูบไปที่ผิวแล้ว ตัว Serum ค่อยๆ ซึมไปกับผิว ทิ้งความรู้สึกชุ่มชื้นไว้ แต่ไม่เหนอะหนะ และ ไม่หนักผิวเลยค่ะ 

เหมาะกับอากาศ ตอนนี้มาก ที่ทั้งร้อน และ เหนียว เหงื่อออกจะได้ไม่รำคาญผิวค่ะ

ผิว ก่อนทา La Vita Vital Bright Serum และ หลังทา จะเห็นว่า มีความชุ่มชื้นต่างกันเลยค่ะ ผิวฉ่ำๆ อุ้มน้ำให้ความรู้สึกดีทีเดียว น่าจะเหมาะกับสาวๆ ผิวผสมเป็นอย่างดีเลยค่ะ และด้วยกลิ่นที่อ่อน ผิวแพ้ง่าย หรือคนที่แพ้น้ำหอมก็น่าจะใช้ได้เช่นกันนะคะ

เพราะ ฉะนั้น เจ้า ECa 233 ที่อุ๋มสงสัยอยู่ด้านบนนั่น ก็คือ สารสกัดพิเศษจาก ใบบัวบก นั่นเองค่ะ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้จึงเป็นที่สนใจของอุ๋ม ยังไง สาวๆ คนไหนอยากลองใช้ หรือสนใจอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ลอง คลิก เข้าไปที่ เพจ ของ 

La Vita Fanpage ดูนะคะ หรือ www.nature-idea.com/la-vita

ดูได้นะคะ ยังมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ดีดี ให้ค้นคว้ากันค่ะ

ว่าแล้วก็ได้เวลาเข้านอนแล้วนะคะ เพราะ นอกจาก SKINCARE ที่ดี ที่สามารถช่วยดูแลผิวของเราได้แล้ว การพักผ่อนที่เพียงพอ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และ การดื่มน้ำ ก็สำคัญเช่นกันค่า งั้นวันนี้ไปก่อนละน๊า ขอบคุณนะคะ สาวๆ ที่เข้ามาอ่านกัน ขอให้ทุกคนมีผิวที่สวยกระจ่างใสยิ่งขึ้นกันทุกคนเลยย

สวัสดีค่ะ