7.23.2015

[VASER] อุ๋มทำเวเซอร์ จัดการไขมันช่วงพุงและขา กับ คลีนิกดรีม (คุณหมอทรงยศ จันทจิตร์)

*** เนื้อหาในบล๊อกอุ๋มครั้งนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เกี่ยวกับการทำศัลยกรรม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ และเนื้อหารวมทั้งรูปภาพบางส่วนอาจจะหวาดเสียวซักนิด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ***

dream clinic ศัลยกรรมตกแต่ง VASER ฉีดไขมัน เสริมจมูก หน้าอก ปรับรูปหน้าเรียว ศัลยกรรมตกแต่ง


          สวัสดีค่ะสาวๆ และผู้ติดตามบล๊อกอุ๋มทุกท่าน :) หากใครได้ติดตามอยู่ใน เพจ Get The Look By PP และ IG : @PannitaP ของอุ๋ม คงได้ทราบกันแล้วว่า อุ๋มได้ตัดสินใจทำ VASER 6S หรือการดูดไขมันด้วยวิธีใหม่ กับ คุณหมอทรงยศ จันทจิตร์ จาก คลีนิกดรีม หรือ Dream Clinic เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 ค่ะ อุ๋มอยากให้ข้อมูลโดยละเอียด เพราะฉะนั้นวันนี้บล๊อกยาวมากแน่นอนค่ะ 

          โดยอุ๋มจะขอแบ่งบล๊อกเป็น 2 ตอนขึ้นไปนะคะ บล๊อกแรกนี้อุ๋มจะให้ข้อมูลของการทำ VASER Liposelection และตอบคำถามต่างๆ ส่วนบล๊อกต่อไปจะเป็นผลของการทำในระยะยาวค่ะ ซึ่งต้องค่อยๆ ทำการอัพเดทไปเรื่อยๆ ค่ะ


          ก่อนอื่นต้องเกริ่นนำก่อน ว่าอุ๋มเคยคิดเรื่องการทำ VASER มาหลายรอบแล้วค่ะ เพราะอุ๋มมีปัญหาเรื่องช่วงล่างใหญ่มาก ออกที่ก้นและต้นขาตลอดแบบรากฐานมั่นคง ใหญ่มาตั้งแต่ต้นขา ก้น ท้องล่าง หลัง มีห่วงยางรอบพุง แต่ที่เห็นกัน อาจจะบอกว่าไม่เห็นอ้วน ตัวไม่ใหญ่ เพราะอุ๋มเป็นคนที่อ้วนแล้วไม่ออกหน้า หน้าจะเรียวตลอด เลยดูไม่ค่อยออกแต่เปล่าเลยค่า แค่หน้าเล็กเท่านั้นเอง


          อุ๋มสูง 172 ซม. ค่ะ น้ำหนักชั่งก่อนทำ 68 กก. คือมันไม่ไหวแล้วโว้ยยย!! สัดส่วน 35-29-39 ค่ะ แกมันอ้วนไปแล้ว! ยูนิฟอร์มนี่เกินคำว่าคับไปละ เรียกว่าปริเลยเถอะ!!




          ตอนก่อนสมัครเข้ามาเป็นแอร์ ช่วงนั้นก็อยู่ในช่วงหุ่นดีของชีวิตค่ะ หนัก 58 กก. เท่านั้นค่ะ บินไป บินมา "เอนจอยอีทติ้ง" เหลือเกิน ผ่านไป 2 ปี นน. ขึ้นมา ปาไป 10 กิโล มีช่วงอ้วนๆ ผอมๆ อยู่ที่ว่าช่วงนั้นดูแลตัวเองขนาดไหนค่ะ แล้วล่าสุดพอมาเริ่มบินไปแถบยุโรป พังเลยค่าา อันนั้นก็น่ากิน อันนี้ก็น่าโดน อุ๋มชอบทานขนมปัง และนั่งคาเฟ่ ดื่มกาแฟ เป็นที่สุด กาแฟก็ไม่ได้ทำให้อ้วนนะ แต่นมที่ใส่นี่ละตัวดีเลย เรียกได้ว่าอุ๋มปฏิบัติตัวไม่ถูกเองตั้งแต่ต้นค่ะ คือ อยากผอมก็ต้องดูแลตัวเอง ดูแลอาหารการกิน ไม่ตบะแตกทุกครั้งที่เห็นอาหาร และออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ



          แต่ว่าอุ๋มพยายามออกกำลังกายก็แล้วแต่เจ้าไขมันที่สะสมมานานนี้ก็ไม่ลดลง หรือเล็กลงไปเลยค่ะ อุ๋มเลยตัดสินใจว่า เอาวะ! ทำ VASER ไปเลยก็ได้ ประจวบกับมีเวลาสามารถหยุดงานได้ จึงตัดสินใจเข้าพบคุณหมอทรงยศที่คลีนิกดรีมค่ะ

ตอนแรกกลัวไหม ?
          ความจริงแล้วก็กลัววววว ประสาทแตก จิตแตกก่อนทำทุกครั้ง ความจริงไปคุยมาหลายคลีนิกแล้ว แต่ไม่เคยทำใจทำได้ลงเลย หรือ ถ้าครั้งไหนยอมใจ ทำได้ ก็จะติดเรื่องเวลาทุกครั้ง ปรากฏว่าก็ไม่ได้ทำ
ปรึกษาอะไรกับคุณหมอบ้าง ?


          ครั้งนี้ได้คุยกับคุณหมอ มีเวลามากพอที่จะถามทุกๆ เรื่องที่เคยกลัว อุ๋มถามถึงเรื่อง เครื่องช่วยชีวิต ยานอนหลับที่ช่วยให้หลับ การมอนิเตอร์ช่วงที่ทำ VASER ใครเข้าเคสบ้าง ต้องหลับไปกี่ชั่วโมง บอกได้เลยว่าถามทั้งหมดที่เคยสงสัย ซึ่งนั่นทำให้อุ๋มมั่นใจเรื่องความปลอดภัยของชีวิตขึ้นมามากๆ การทำ VASER เป็นการผ่าตัดที่ต้องอาศัยศัลยแพทย์ที่ศึกษามาโดยตรง ซึ่งแน่นอนว่ามีความเสี่ยง ดังนั้นจึงต้องผ่านการตัดสินใจมาอย่างดีค่ะ

          คุณหมอทรงยศ ให้คำปรึกษาอย่างใจเย็น และพร้อมที่จะตอบคำถามทุกอย่าง คุยกับคุณหมอแล้วสบายใจขึ้นมาเยอะ แถมพอฟังแล้วรู้สึกเชื่อมั่นมากๆ ค่ะ อุ๋มจึงมั่นใจ และคิดว่าที่คลีนิคนี้ปลอดภัยเลยกล้าทำอย่างสบายใจค่ะ


VASER คือ อะไร?

          VASER หรือ เวเซอร์ คือ เทคโนโลยีที่สามารถสลายไขมันได้มากเท่าการดูดไขมัน แต่นุ่มนวล และผลข้างเคียงน้อยกว่าการดูดไขมันมาก คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วกว่าการดูดไขมันทั่วไป

          VASER LipoSelection เป็นเทคโนโลยี Ultrasound ขั้นสูง สามารถ เลือกทำลาย เป้าหมาย คือ ไขมันอย่างจำเพาะเจาะจง  (LipoSelection) โดย ไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง เช่น เส้นประสาท เส้นเลือด และ เนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่นๆ นอกจากนั้น VASER ยังช่วยให้ผิวกระชับ และฟื้นตัวเร็ว ทำให้ได้ผลการสลายไขมันที่ดีที่สุด ขณะที่มีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ไม่มีปัญหาเรื่อง ผิวขรุขระ หรือเป็นโพรงเหมือนการดูดไขมันในอดีต

(ข้อมูล : http://www.clinicdream.com/)

ดูดส่วนไหนได้บ้าง?
          

          การทำ VASER ถูกนำมาใช้ในการลดสัดส่วนได้เกือบทุกส่วนของร่างกาย ได้แก่ ใต้คาง, คอ, ท้องแขน, ,สะบัก, หน้าอก, ท้อง,เอว,สะโพก , หลัง , ก้น, ต้นขา, เข่า , น่อง, และข้อเท้า เรียกได้ว่าทุกส่วนที่มีไขมันส่วนเกิน สามารถทำ VASER LipoSelection ได้


ใช้ยาสลบหรือไม่ ?

          อันนี้ตอนแรกอุ๋มกลัวมาก กลัวเรื่องการใช้ยาสลบแล้วไม่ตื่น เพราะมีเคสเรื่องแพ้ยาที่เคยอ่านเจอ หรือถ้าเป็นเคสที่ใช้แค่ยาฉา แล้วรู้สึกตัวตลอดก็กังวลอีก เพราะถ้าเจ็บจะดูดได้น้อย 

          ที่ Dream Clinic จะให้ยานอนหลับ ยาระงับความรู้สึกทำให้เราหลับลึกเพื่อให้เราไม่เจ็บ รวมทั้งฉีดยาชาเข้าไปบริเวณที่จะทำการรักษา  ทำให้ไม่รู้สึกตัว ไม่ดิ้น สามารถทำผ่าตัดได้ตลอดได้ผลเรียบดี ในห้องผ่าตัดของทางคลีนิคมีเครื่องดูแลสัญญาณชีพ และเครื่องช่วยชีวิตด้วยค่ะ 

แผลเป็นอย่างไร ?

          การทำ VASER จะมีแผลเปิดเฉพาะที่ชั้นผิวหนัง น้อยกว่า 1 ซม. เพื่อให้สามารถสอดท่อ VASER เข้าไปในชั้นไขมันได้ แผลหลังผ่าตัดจึงเป็นเหมือนรอยขีดเล็กๆ ธรรมดาบนผิวเท่านั้น ถือเป็นการผ่าตัดที่ไม่ใหญ่นัก เนื่องจาก VASER เป็นการทำศัลยกรรม จึงต้องใช้ศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีประสบการณ์  รวมถึง ทีมแพทย์และพยาบาลผู้ช่วยเพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการดูแลผู้ป่วย


          นี่แผลของอุ๋มเองค่ะ มีทั้งหมด 6 จุด เพราะ อุ๋มดูดทั้งหน้าท้อง หลัง ขาทั้งหมด และก้นค่ะ แผลทั้งหมดอยู่ในส่วนที่มองไม่เห็นค่ะ โดยแผลของอุ๋มอยู่ที่ สะดือ ขอบบิกินี่ 2 จุด เหนือก้น และช่วงแก้มก้น อีก 2 จุด ค่ะ แผลเล็กมากๆๆๆ ตัดไหม 7 วันหลังทำ VASER ค่ะ ตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่รอยแล้วค่ะ

VASER ดีกว่าอย่างไร ?

          การทำ VASER เจ็บน้อย แผลเล็ก เสียเลือดน้อย มีการบาดเจ็บต่อเส้นเลือดและเส้นประสาทน้อยมากทำให้ปลอดภัยกว่า บวมช้ำน้อยเหมาะกับบริเวณที่มีพังผืดเยอะ ช่วยให้ผิวเรียบมากกว่าการดูดไขมันแบบปกติ ระยะเวลาพักฟื้นน้อย ทำได้โดยไม่ต้องนอน ร.พ. กลับบ้านได้เลย ที่สำคัญสลายไขมันได้ปริมาณมากกว่าการดูดไขมันแบบอื่นทุกชนิด

ก่อนดูดเตรียมตัวอย่างไร?

  • ไปพบคุณหมอทรงยศที่คลีนิก เพื่อตรวจเช็คสุขภาพ ลักษณะผิวหนังและไขมันสะสม และวัดขนาดประเมินปริมาณไขมัน ประเมินความหย่อนของผิวหนัง รูปทรงที่ไม่เท่ากัน ผิวหนังที่ไม่เรียบอยู่เดิมหรือเซลลูไลท์ (ผิวเปลือกส้มจากพังผืดในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง)
  • แจ้งให้ทางคลีนิกทราบถึงโรคประจำตัวและประวัติการแพ้ยา
  • ควรหลีกเลี่ยงการทำช่วงที่มีประจำเดือน เพราะ จะเสียเลือดเยอะเกินไป
  • ถ้าความดันสูงควรควบคุมความดัน ให้อยู่ต่ำกว่า 140/90 มิลลิเมตร ปรอท
  • ผู้ที่เป็นโรคประจำตัวหรือร่างกายไม่แข็งแรง ไม่ควรดูดไขมันปริมาณมากๆ ในครั้งเดียว เพราะการเสียเลือดมาก ทำให้มีผลต่อระบบไหลเวียนโลหิตได้
  • เตรียมตัวหยุดงาน โดยอุ๋มลางานจากการบินทั้งหมด 10 วันค่ะ
ควรงดอะไรบ้าง?

  • งดยา และอาหารเสริมที่ทำให้เลือดหยุดช้า เช่น แอสไพริน บลูเฟน น้ำมันปลา วิตามินอี แปะก๊วย ฯลฯ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำ
  • งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6 ชม.
วันที่ดูดเตรียมตัวอย่างไร ?

  • ก่อนไปทำควรอาบน้ำ และสระผมให้สะอาด (เพราะ หลังทำจะไม่ได้อาบ)
  • ห้ามขับรถไป ควรมีคนมารับค่ะ
  • แต่งตัวสบายๆ อุ๋มใส่เดรสที่สวมง่ายๆ และไม่ควรสวมรองเท้าส้นสูง


ราคาค่าดูด คิดอย่างไร ?

          การทำ VASER นั้น ราคาสูงกว่า การดูดไขมันแบบปกติ แต่ว่าได้ผลดี และปลอดภัยกว่า ราคาที่ทางคลีนิกดรีม ทำการคำนวณนั้นขึ้นอยู่กับสัดส่วนของแต่ละคนค่ะ มีมาตรฐานตามไซส์ของผู้ทำเลยค่ะ

          ในกรณีของอุ๋มราคาประมาณ 2 แสนบาท ค่ะ

ระหว่างทำรู้สึกอย่างไร เจ็บไหม ทำนานแค่ไหน ?

          อันนี้เป็นคำถามที่สาวๆ ถามอุ๋มกันเยอะที่สุดค่ะ ต้องบอกเลยว่าอุ๋มไม่รู้สึกเลยซักนิดขณะที่ทำค่ะ จำได้ครั้งสุดท้ายตอนที่เจาะน้ำเกลือ ตอนเวลา 12.20 น. เจ็บแค่ตอนนั้นเลยจริงๆ หลังจากนั้น หลับลูกเดียวค่ะ คุณหมอทรงยศบอกว่า เคสอุ๋มใช้เวลาทำ 4 ชม. ซึ่งถือว่านานทีเดียว

          แต่อุ๋มรู้สึกตัวอีกทีตอนคลีนิกดรีมจะปิดบริการ ตอนคุณแฟนมารอรับที่คลีนิกก็ 21.30 น. เลยค่ะ คือ ระหว่างนั้นก็เมายาสลบลุกขึ้นมา Selfie นะคะ แต่ว่า ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น จำอะไรไม่ได้เลยค่ะ ตอนกลับบ้านนั่งรถยัง งงๆ เบลอๆ อยู่เลย 

          อุ๋มมีอาการหน้ามืด และวิงเวียน อยากอาเจียนตลอดเวลาช่วงนั่งรถกลับบ้านค่ะ อาจเป็นผลของยานอนหลับ และการเสียเลือดไปค่ะ 


ดูดส่วนไหนไปบ้าง และ ดูดไปเยอะแค่ไหน ?

          ส่วนที่อุ๋มดูด คือ ท้องบน ท้องล่าง ใต้บรา เอว สะโพก เนื้อเหนือขอบกางเกง หลัง ใต้ก้นย้อยๆ ขาใน ขานอก หน้าขา ข้างๆ หัวเข่า ,,,, คือ ดูดส่วนเกินทั้งหมดที่สามารถดูดได้เลยค่ะ

          ไขมันที่ออกมาทั้งหมดกูตามรูปด้านบนเลยค่ะ !!! 6 ลิตร !!! ช๊อคแพร๊บบบบบบบบ มาดูรูปผลหลังทำมาแล้วประมาณ 20 วันดีกว่าค่ะ รับรองว่ารูปนี่ละช่วยให้ตัดสินใจได้เลยค่ะ


อุ๋มบอกเลยว่าแค่ 20 วันนั้น อุ๋มพอใจกับผลการทำ VASER กับ คลีนิกดรีมครั้งนี้มากๆๆๆๆ ค่ะ

อาการหลังดูดช่วงแรกเป็นอย่างไรบ้าง?

          ระยะเวลาการพักฟื้นจนกระทั่งปกติแต่ละบุคคลอาจจะแตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ดูดออก และจำนวนจุดที่ทำการดูดไขมันออกไปค่ะ


          ทำช่วงท้องก็เหมือนซิทอัพมาเยอะๆ ทำช่วงขาก็เหมือนเล่นขามาเยอะๆ ส่วนอุ๋มทำทั้งหมด ก็เหมือนออกกำลังกายมาทั้งวัน มีเหนื่อยง่ายในช่วงแรกๆ อุ๋มต้องดื่มน้ำตลอดเวลา และฉี่บ่อยเลยใส่แพมเพิทผู้ใหญ่เลยค่ะ จบเรื่อง!! 


          อาการที่หลักๆ ที่เห็นได้ชัด ในช่วงแรก คือ ความช้ำค่ะ!!! ช้ำหนักมากเลยล่ะ บางวันบวม บางวันช้ำ บางวันทั้งบวมทั้งช้ำ วันแรกๆ เจ็บปวดเลยล่ะค่ะ แต่แบบทนได้นะคะ อาการเหมือนออกกำลังกายมาหนักๆ และต่อยมวยมาด้วยอะไรแบบนั้นค่ะ 

หลังดูดต้องปฏิบัติตัวอย่างไร?


          หลังทำ VASER จำเป็นต้อง สวมชุดผ้ายืด (Body suit, Medical Garment) เพื่อพยุงรัดบริเวณที่ทำการรักษา  ทั้งกลางวันและกลางคืนยกเว้นเวลาอาบน้ำเป็นเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นแนะนำให้ใส่ชุด Body suit เฉพาะเวลากลางวันที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายต่ออีก 4-6 เดือนค่ะ


          และทางคลีนิกจะมียาแก้อักเสบ ลดบวม ยาฆ่าเชื้อ และยาแก้ปวดมาให้ด้วยค่ะ ก็ต้องทานอย่างสม่ำเสมอ ตามเวลาที่ระบุด้วยนะคะ :)

อัพเดทอาการที่เกิดช่วงแรกๆ ที่ทำ


          อาการวันที่ 2 หลังการทำ วันนี้เจ็บแล้วนะ แต่ได้ชุดรัดยกกระชับมาแล้วทำให้สบายขึ้นค่ะ ไม่ต้องคอยพันขาด้วยผ้าอิลาสติก สามารถซื้อได้ที่คลีนิกดรีมเลยค่ะ ก่อนสั่งเจ้าหน้าที่จำทำการวัดตัวและช่วยเลือกไซส์ค่ะ อุ๋มเลือกแบบที่ยาวตั่งแต่เอวถึงใต้หน้าอกเลย แน่นเปรี๊ยะ เลยค่ะ  ค่าชุดอยู่ที่ 6,000 บาท 

          ด้วยความที่อุ๋มดูดทั้งพุง หลัง ก้น ขา ทำให้ลุกนั่งลำบากนิดนึง คือ เดิน กับ นอน นี่สบายเลย แต่ตอนนั่งจะเจ็บก้นค่ะ วันนี้ตื่นมาเดินเล่นรอบๆ บ้าน ล้างจาน กวาดบ้านได้แล้วนะคะ แต่ยังไม่ยกของหนักค่ะ

          สัดส่วน ช่วงเอวหายไปอย่างชัดเจนนี่ไม่ได้แขม่วเลยนะคะ เป็นแบบนี้เลย ด้านหลัง อุ๋มมีปัญหาช่วงเหนือขอบกางเกงจะปลิ้นมากๆ เป็นพิเศษ ตอนนี้ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ ช่วงขายังบวมกระจายย รอให้ยุบหน่อยละจะมาถ่ายนะค


          อาการวันที่ 4 หลังการทำ มาหาคุณหมออีกแล้วค่าาา นัดเช็คอาการตามระเบียบ เช็คแผล เช็คผล คุณหมอบอกว่าแผลสวยอยู่ เริ่ดดดดดด แต่ต้องงดเอาก้นไปไถลตามที่ต่างๆ บ้าง เพราะ แผลถลอกตรงเหนือก้นค่ะ ได้รับยาไปทาตามระเบียบ

          ความบวมลดลงแล้ว ตัวฟีบลง แต่ยังไม่เข้าที่ดีค่ะ


          อาการวันที่ 6 หลังการทำ อุ๋ม "โชว์ช้ำเชียวว" .... ตอนนี้ขายังคงบวมเป่งอยู่เลยค่ะ แต่ทำอะไรได้ปกติ ไปไหนมาไหนได้แล้ว เจ็บน้อยลงมากๆๆ ลอยช้ำตรงตัวเบาบางลง จากม่วงกลายเป็นเขียว เดี๋ยวจากเขียวจะกลายเป็นเหลือง ละก็จะจางหายไปค่ะ ....  พุงกับเอว สบายขึ้นเยอะชุดรัดเริ่มหลวมแล้วค่ะ


          อาการวันที่ 7 หลังการทำ ตัดไหมแล้วทั้ง 6 แผลค่ะ ตอนนี้เหลือแต่รอยเขียวช้ำอย่างเดียวแล้ว อาการบวมลดลงค่ะ เตรียมพร้อมกลับไปทำงาน!!


          อาการวันที่ 9 หลังการทำ ออกไปทำงานแล้วค่ะ อุ๋มกลับมาบินแล้วค่ะ ใส่เสื้อยูนิฟอร์มได้สบายสุดๆ แถมชุดไทยเอาตัวเก่าที่เคยใส่ไม่ได้มาใส่ได้สบายมากกกก อุ๋มใส่ชุดรัดไว้ข้างในตลอดระหว่างทำงานด้วยค่ะ ตอนลงไปนอนที่ประเทศจีนก็ใส่กางเกงรัดตลอดค่ะ วันนี้ยังมีอาการบวมนิดหน่อย อาจจะเพราะระหว่างไฟล์ทเดินเยอะมากๆ ค่ะ


          อาการวันที่ 11 หลังการทำ ตอนนี้รอยม่วงๆ เริ่มน้อยลงแล้วค่ะ ส่วนที่เหลือกลายเป็นสีแดงๆ แบบนี้ทั้งหมดค่ะ ยังดูน่ากลัวอยู่แต่ไปบินมาแล้วค่ะ ทำงานได้สบายค่ะ ตอนนั่งเจ็บช่วงก้น เพราะดูดไขมันช่วงก้นและขาด้านหลังไป ดังนั้น ตอนผู้โดยสารเดินชน ช่วงต้นขา ก็จะโอดครวญเล็กน้อยค่ะ 

ที่เหลือไม่มีอะไร เริ่มยุบแล้ว กางเกงหลวม กระโปรงหลวม ชุดไทยหมุนได้ กรี้ดดดดด สรุปว่า เจ็บแค่ไหนก็ยอมค่ะ

ปล. ใครออกกำลังกายไหว การออกกำลัง และการควบคุมอาหาร ก็ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดนะคะ smile emoticon อุ๋มแค่พยายามมาหลายปีละ ขอเข้าทางลัดนิดนึงละกันน้า อย่าว่ากัน

นานแค่ไหนจึงจะเห็นผล ?


  • หลายรายจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนทันทีหลังการ รักษา บางคนอาจรอยุบบวม 2-4 สัปดาห์ ** สำหรับตัวอุ๋มนั้น 20 วันเห็นการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเลยค่ะ
  • ส่วนการกระชับผิวนั้นที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนหลังการรักษาประมาณ 4-6 เดือน
  • หลังการดูดไขมันแล้วผลจะถาวรได้  จะต้องมีการควบคุมอาหารและออกกำลังกายต่ออย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ **ไม่มีการดูดไขมันที่ไหนทำให้ผอมได้ถาวรถ้ายังกินนกินกิน เข้าไปนะคะ

ความพอใจของอุ๋ม :D

          อุ๋มสามารถพูดได้เต็มปากเลยค่ะ ว่าอุ๋มไม่เสียใจเลยกับการตัดสินใจทำ VASER กับ คลีนิกดรีม และ คุณหมอทรงยศ จันทจิตร์ ในครั้งนี้ ตั้งแต่ก่อนทำ ระหว่างทำ ระหว่างรักษาตัว จนกระทั่งหลังทำมานี้ อุ๋มแฮปปี้กับผลลัพธ์มากๆ ค่ะ สัดส่วนอุ๋มลดลงอย่างมาก สามารถกลับมาใส่เสื้อผ้ายูนิฟอร์ม ชุดไทย และชุดไปเที่ยวได้อย่างสบายตัว ทำให้ความมั่นใจกลับมามากๆ เลยค่ะ  


          อีกทั้งคุณหมอดูแล เอาใจใส่ ติดตามผลตลอดหลังจากที่อุ๋มทำ VASER มาค่ะ นี่วันที่ 23 ที่ทำแล้ว สัดส่วนยังลดลงอย่างต่อเนื่อง อุ๋มควบคุมตัวเองเรื่องการรับประทานอาหารไปด้วยค่ะ และจะเริ่มกลับมาออกกำลังตอนทำมาครบ 1 เดือนค่ะ (ต้องปรึกษาคุณหมออีกหนเรื่องออกกำลังกายค่ะ) น้ำหนักอุ๋มเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการทำ VASER จะไม่ได้มีส่วนให้ น้ำหนักลด แต่สัดส่วนจะลดลง แต่ทำไปแล้วรู้สึกว่า "ความสวยอยู่ใกล้แค่เอื้อมมมนี่เอง" อดอาหารอีกหน่อยจะเป็นไง การลดความอ้วนจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ

 

          ตัวอย่าง กางเกงที่ก่อนหน้านี้คับปึ๋งงงง และชุดไทยที่วัดตัวตัดไปก่อนหน้านี้ค่ะ สัดส่วนตอนนี้ เอวลดไป 2 นิ้ว สะโพก ลดไป 2 นิ้ว แต่เดี๋ยวจะมาอัพเดทเรื่อยๆ นะคะ :) ยังไม่ได้วัดอย่างเป็นทางการ 

          อุ๋มหวังว่า บล๊อกนี้ของอุ๋มจะมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจสำหรับผู้ที่หาข้อมูลด้าน VASER อยู่ ไม่มากก็น้อยนะคะ อุ๋มพยายามหาข้อมูลและตอบคำถามที่ทุกคนถามให้ได้มากที่สุด และอุ๋มอยากจะขอขอบคุณคุณหมอทรงยศ จันทจิตร์ และคลีนิกดรีมที่ทำให้อุ๋มมีสัดส่วนที่สวยขึ้นสมใจด้วยค่ะ สุดท้ายหากมีข้อผิดพลาดประการใด อุ๋มขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ 


รายละเอียดเพิ่มเติมของ

 dream clinic ศัลยกรรมตกแต่ง VASER ฉีดไขมัน เสริมจมูก หน้าอก ปรับรูปหน้าเรียว ศัลยกรรมตกแต่ง

MAP-Dreamclinic

เบอร์โทร : 02-693-9911
อีเมล์ : info@dreamclinicthailand.com
เว็บไซต์ : www.clinicdream.com
Facebook : https://www.facebook.com/Clinicdream


แล้วเจอกันอีกทีในบล๊อกหน้าของอุ๋มค่า บ๊ายบายยย สวัสดีค่ะ <3

7.22.2015

[REVIEW + HOWTO] แป้งดินน้ำมัน VER.888 Cindialah SPF 50+/PA+++

ไงงง คุณเพื่อนนน (ต๊ายย อินเทรนด์ Gossip Girl Thailand ค่าา)

บล๊อกนี้อุ๋มกลับมาอัพเดทบูวเบาาา ทำฮาวทู ใสใส แบ๊วๆ กันนะคะ


บล๊อกนี้อุ๋มถือโอกาสช่วงกลับจากไฟล์ทยุโรป แล้วได้หยุดหลายวันมาทำรีวิวแป้งกันซะหน่อย อุ๋มหยิบแป้งนวัตกรรมใหม่อีกตัวหนึ่งมา Review ค่ะ แป้งตัวนี้ก็คือ แป้งดินน้ำมัน อีกเช่นเคย ในขณะนี้มีแป้งดินน้ำมันหลายยี่ห้อ หลายแบบ หลายหน้าตาให้ลองเลือกเล่นค่ะ ยังไงลองมาดูตัวนี้กันบ้างนะคะ ว่าน่าสนใจมากน้อยเพียงใด เริ่มจากแพคเกจกันก่อนเลยค่ะ


ตลับนี้ คือ แป้ง VER.888 Cindialah หรือ ซินเดียล่า 
เป็นแป้งดินน้ำมันที่ผสมกันแดด SPF 50+/PA+++ ค่ะ

คุณสมบัติของแป้ง Cindialah ที่ทางแบรนด์เคลมไว้ ดังนี้ เลยค่ะ

- ปกปิดร่องรอยได้เรียบเนียนอย่างมืออาชีพ
- ใช้ได้กับทุกสภาพผิว รับประกันความเด้งดึ๋ง ขาวใส ปกปิด หน้าปลวกแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัว เป๊ะแน่นอน 
- ปกปิดจุดด่างดำ สิว ริ้วรอยต่างๆ แต่บางเบาไม่โบ๊ะ ไม่หนา เป็นธรรมชาติสุดๆ
- แป้งตัวนี้สามารถปิดรอยต่างๆ ได้ดีจริงๆ ช่วยให้ผิวเนียนสม่ำเสมอ 
- ควบคุมความมันได้ดี ระหว่างวันก็ยังต้องทาแป้งทับนิดหน่อย 
- ใช้แป้งตัวนี้แทนรองพื้นหรือบีบีครีมได้ในขั้นตอนเดียว ประหยัดเวลาในการแต่งหน้าได้เยอะเลยค่ะ

ตัวกล่อง : แป้งซินเดียล่า มาในกล่องสีม่วงขาวน่ารัก ชอบอารมณ์หนาวๆ บนกล่องที่มีหิมะโปรยปรายแบบนี้ค่ะ คิดถึงอารมณ์ไปยุโรปหน้าหนาว กรี๊ด


ตลับแป้ง : แกะกล่องออกมาจะเจอตลับสีม่วงแบ่งชั้นวางฟองน้ำกับแป้งไว้แยกกันค่ะ ตลับแป้งหนาพอสมควรเลยค่ะดูแข็งแรงดี เหมาะมือค่ะ



เนื้อแป้ง : มาดูที่เนื้อแป้งกันบ้างค่ะ เนื้อเนียนๆ มีความแข็งแต่พอกดปุ๊บจะยวบลงไปตามนิ้วมือแบบที่เห็นอย่างนี้เลยค่ะ 

สีของแป้ง : มีสีเดียวค่ะ คือโทนสีกลางๆ เหมาะสำหรับผิวขาวนะคะ

สัมผัสของแป้ง : เอานิ้วแตะแป้งไป แป้งก็ติดที่นิ้วขึ้นมาแบบนี้เลยค่ะ พอใช้ฟองน้ำกดก็เช่นกัน ชอบฟองน้ำที่ให้มาค่ะ เนื้อแน่นนุ่ม กดแล้วสีแป้งติดหน้าเลยค่ะ


กลิ่น : ส่วนตัวอุ๋มคิดว่าแป้งกลิ่นเหมือนดินน้ำมันค่ะ 

ว่าแล้วก็ มาดู HOW TO ที่อุ๋มแต่งหน้าในวันนี้กันเลยดีกว่าค่ะ


วันนี้อุ๋มมาใน ลุคผิวใสๆ แต่ว่าปากจัดเต็มค่ะ Inspired มาจากตัวกล่องของแป้ง Cindialah นี่ล่ะค่ะ 
สีม่วงอมชมพูได้ใจ เป็นที่มาของลุคนี้ค่ะ


เริ่มขั้นตอนแรกของ การแต่งหน้าทุกๆ ครั้งกันเลยด้วยการลง Moisturizer และ Sunscreen ค่ะ 


ด้วยความที่ฟื้นจากการนอนหลังบิน ตาก็จะตุ่ยๆ แบบนี้ล่ะค่ะ อุ๋มเลยติดเทปติดตา 2 ชั้น
จาก บอกต่อบิวตี้ ไซส์ M ตัวนี้ค่ะ


หลังจากนั้นสามารถใช้ แป้ง Cindialah ตัวนี้ตัวเดียวแทนรองพื้น หรือ บีบีครีม ที่เคยใช้ได้เลยค่ะ เพียงใช้พัฟที่มากับแป้ง แตะแป้ง ซินเดียล่า ลงไป แล้วนำมาปาดกดๆ ซับ ๆ ให้ทั่วใบหน้า ทีละน้อย ๆ ให้ทั่วใบหน้า โดยสามารถแต้มซ้ำในบริเวณที่ต้องการปกปิด เช่น ช่วงใต้ตา หรือรอยสิวค่ะ (ไม่แนะนำให้ใช้กดทับสิวอักเสบเพราะ จะทำให้อุดตัน และอักเสบเพิ่มขึ้นได้ค่ะ)


เสร็จละเขียนคิ้วได้เลยย เร็วดีจริงๆ!! วันนี้อุ๋มใช้ที่เขียนคิ้วของน้องอชิ ACHITA สี Ash Brown ค่ะ


เพื่อความ เนียลลลล ของคิ้ว อย่าลืม ใช้แปรง หรือ คัทต้อนบัท ปัดหัวคิ้วให้ดูซอฟท์ลงด้วยนะคะ


จัดการสร้างกรอบหน้า ด้วยเชดดิ้ง แต่วันนี้อุ๋มใช้ อายแชโดวสีน้ำตาลเนื้อแมท แทนค่ะ (แทนกันได้เลย เลือกสีแมท และสีที่เข้ากับใบหน้านะคะ) ปัดแก้มด้วยสีส้มอมชมพูค่ะ อุ๋ม 


เอ้าาา ไฮไลต์ แจกความสดใส กันซักนิดดด!!

#งานสร้างผิว


แต่งตาเลยค่ะลุคนี้ใช้อายแชโดวสีเดียวเท่านั้นนนนน คือ สีเบจมีประกายชิมเมอร์เนื้อละเอียดด
ตามด้วยเขียนด้านในเส้นน้ำตา ด้วย Pencil Liner สีดำค่ะ


ฟาดดดด ขนตาปลอมค่ะ สวยแบ๊วเราต้องมีขนตานะ!!


เย้!! เกือบเสร็จแล้วววว


ปัดขนตาล่างให้ดู มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งง :D


เอ้าาา ทาปากสิแกรร!! 

อุ๋มจัดดดด สีชมพูเข้ากับหน้าใสๆ งานประทินผิวนี้ ด้วย Wet N Wild สี Dollhouse Pink ชมพูฝุดๆ


นี่ไง๊!! เสร็จแล้วล่ะ น่ารักมะ? ฮ่าๆๆๆๆๆ ชมหน่อยยยยยย

ก็จบไปแล้วนะคะ สำหรับ HOWTO การแต่งหน้าลุคมุ้งมิ้งประจำวันนี้


รีวิวแป้ง (ความคิดเห็นส่วนตัว) หลังจากแต่งไปแล้ว 

อุ๋มว่าสีของเนื้อแป้งนี้ขาวไปสำหรับหน้าอุ๋ม แป้ง Cindialah ตัวนี้จะเหมาะสาวๆ ผิวประมาณ เบอร์ 21 (เกาหลี) เบอร์ 1 (ญี่ปุ่น) และที่ใช้รองพื้นไม่เกินเบอร์ 020 ฝั่งยุโรป น่าจะไหวว แต่กับอุ๋มขาวไปหน่อยค่ะ ถ้าทาต้องแปะลงมายันคอและหน้าอกด้วยเลย

เนื้อแป้งเนียนดี แต่ใช้เวลาพอสมควรกว่าแป้งจะซึมเข้าหน้าค่ะ ปกปิดได้ดี สำหรับสาวหน้ามัน ใช้แล้วหน้าอาจเยิ้มระหว่างวันได้ค่ะ เติมได้ระหว่างวันแต่ต้องค่อยๆ กดค่ะ

 หลังใช้ควรทำความสะอาดหน้าให้ดี เพื่อป้องกันสิว เนื่องจากเนื้อแป้งกันน้ำ กันเหงื่อ และโมชั่นการกดพัฟของเราตอนแต่งอาจทำให้เกิดสิวอุดตันได้ค่ะ


สำหรับสาวๆ ที่สนใจ แป้ง Cindialah ตัวนี้ สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามนี้เลยนะคะ

Facebook ::

www.cindialah.com

ติดตามกันต่อได้ในเพจของอุ๋ม คลิกเลยยย :)
DISCLAMER : This post is sponsored by Cindialah

7.09.2015

[REVIEW] คืนผมสวยกับ The Element Lifestyle Salon ด้วย Botanical hair & Scalp treatment

สวัสดีค่ะ วันนี้อุ๋มขอมารีวิวสั้นๆ เกี่ยวกับการดูแลหนังศีรษะของอุ๋มค่ะ
อุ๋มมีโอกาสได้ไปร่วมทำทำทรีทเม้นท์กับ The Element Lifestyle Salon by Aveda ค่ะ 


ในบล๊อกนี้เลยจะมาเล่าว่าอุ๋มประทับใจขนาดไหน สำหรับทรีทเม้นท์ Botanical Hair & Scalp Treatment ที่มีส่วนช่วยในการคืนสมดุลสู่ผม แห้ง เสีย พันกัน แถมหนังศีรษะยังมันอีกด้วยค่ะ หนังศีรษะมันๆ จะก่อให้เกิดการอุดตันของรูขมขุนบริเวณศีรษะด้วยนะคะ ต้องระวังให้ดี


ทาง The Element Lifestyle Salon มีเครื่องวัดสภาพหนังศีรษะเราอย่าง Professional เป็นที่สุดค่ะ ได้เห็นกันไปเลยว่าหนังศีรษะของเราเป็นอย่างไร ควรได้รับการดูแล และบำรุงแบบไหน 

วันนี้อุ๋มทำทรีทเม้นท์สำหรับคนที่มีหนังศีรษะมันค่ะ 


ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในร้านเป็นของ AVEDA ค่ะ ทั้งหอม ทั้งสวย ชอบมากค่ะ


เริ่มทำทรีทเม้นท์ ด้วยการจิบชา AVEDA ร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมอะโรม่าอ่อนๆ แฮปปี้ไปอีกก


ครั้งนี้ใช้ AVEDA Scalp Remedy Purify Concentrate for Oily Scalp ค่ะ

อุ๋มต้องบอกเลยว่าตลอดการทำ Treatment ครั้งนี้ ไม่มีช่วงไหนไม่ผ่อนคลายเลย คือ สบายตลอดดดด ตั้งแต่ใส่น้ำยาบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะลงบนศีรษะเรา การนวด วารีบำบัด บรรยากาศของร้าน ไปจนถึงพี่ๆ ในร้าน คือ เข้าไปแล้วสบายทั้งกายและใจเลยค่ะ


สภาพผมหลังการทำทรีทเม้นท์ ฟู ฟิน มีน้ำหนัก สุดๆๆ หายฟังไปเลย


ต้องขอบคุณทาง Wongnai Beauty มากๆ เลยนะคะ ที่ทำให้อุ๋มมีโอกาสได้รู้จักกับ The Element Lifestyle Salon ถ้ามีโอกาสต้องกลับไปอีกแน่นอนค่ะ แฮปปี้มากๆ เลยทีเดียว อยากให้ผู้ที่มีความสนใจอยากปรับสมดุลหนังศีรษะ หรือ อยากเรียกความสดชื่นคืนมาให้กับผมของเรา

ลองมาใช้บริการที่ The Element Lifestyle Salon ดูแบบอุ๋มนะคะ

แผนที่ร้านตามนี้เลยนะคะ

The Element Lifestyle Salon

คริคริ ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่า :) อย่าลืมมม มาคลิกไลค์ในเพจติดตามกันนะคะ คลิกที่รูปเล้ยย <3