12.24.2013

REVIEW : L'oreal Paris กันแบบรัวๆๆ :)

ฮัลโล๋ ฮัลเล๋

สบายดีกันไหมคะ สาวๆ :D

หายไปกับการเทรนนิ่งนานมากกก ไม่ได้อัพอะไรเลย !! คิดถึงกันบ้างไหม ไหม ไหม
แบบว่าอยากมาอัพอยู่นานแล้ว แต่ภารกิจติดพันมากๆ ค่ะ คิดถึงบล๊อก คิดถึงเครื่องสำอาง คิดถึงๆ
วันนี้กลับมาพร้อมกับ L'oreal Paris ขนมาทั้งเซ็ท ที่ขายในวัตสันนั่นละ

บอกเลย เล่นไป ยิ้มไป สนุก สวย และราคาถูกใจ อุ๋มมากๆ ค่ะ



มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง ขนมาหมดค่ะ บีบี แป้ง ตา ปาก คิ้ว แก้ม เล็บ 
กราบบ .... ลอริอัล แพรีส ประเทศไทย ไว้ ณ จุดๆ นี้ ทุกสีล้วนคัดสรรมาให้แอร์ตัวน้อย อย่างดิชั้น


เริ่มกันด้วย True Match Skin Idealizing BB Cream SPF 35 PA++

เป็นบีบีครีม สูตรผสาน "ไฮยารูลอนิก เพียว" ซึ่งจะช่วยเก็บความชุ่มชื้นไว้ ทำให้ผิวเรียบเนียน และดูมีชีวิตชีวา ยาวนานขึ้น บอกเลย ใช้ไปบินมาละ เวิร์ค ค่ะ เวิร์ค หน้าเด้งใช้ได้อยู่ ปกติ หน้าจะเยิ้มมันตั้งแต่ Sector แรก แต่ไปบินแล้วโบก บีบีครีมตัวนี้ไป ไม่เยิ้ม ไม่หยด ทาแป้งผสมรองพื้นทับ ระหว่างวันก็ยังสวยสดอยู่ ชอบเลย ปลื้มเลยยย 

ปล. แต่สาวๆ ที่หน้ามันมากๆ อาจไม่ชอบนะคะ อันนี้ชื่นช่่ำแฉะ พอสมควร อากาศบนเครื่องแห้งกว่าอากาศข้างล่างมาก เดี๋ยวอุ๋มขอลอง บนพื้นดินแล้วจะมาส่งข่าวอีกทีค่ะ :)




ลงรองพื้นกันไปเรียบร้อยก็มาต่อกันที่ LUCENT MAGIQUE TOUCH UP PEN 

"ลูเซนท์ เมจิก ทัช อัพ เพ็น" เป็นอารมณ์ คอนซีลเลอร์ปากกา ไว้ ทัชอัพเพิ่มความเปล่งปลั่งให้ผิวระหว่างวันเกร๋ๆ คือเอาจริงๆ อาชีพที่ทำเนี่ย หน้าตาอ่อนล้าได้ง่ายมาก เพราะความง่วง ไอ่เจ้าตัวนี้นี่ล่ะค่ะ โบกใต้ตาเข้าไป จะได้ตาสว่างๆ  ผิวที่แลดูสดชื่นเปล่งปลั่งในทันที ด้วย Liquid Light Technology ที่มี Byron Liquid ของเหลวโปร่งแสงสีเงินซึ่งมีคุณสมบัติช่วยสะท้อนแสงบนผิว พร้อมมอบความชุ่มชื่นได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง 

มี 2 สีให้เลือกระหว่าง Light และ Fair นะคะ วิธีการเลือกก็คือ เลือกให้สว่างกว่าสีผิวปกติ 1 เฉด ก็พอ อย่าให้ขาวมากนะคะ ตรงส่วนที่ทาไปจะลอยยย ได้ขึ้นมาทันที



คิ้ว คิ้ว คิ้ว กับ SUPER LINER BROW DESIGNER PRO 

"ซุปเปอร์ ไลเนอร์ โบรว์ ดีไซน์เนอร์ โปร" ซึ่งก็คือ ดินสอเขียนคิ้ว 3 ขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1 ด้านหัวดินสอ ช่วยกำหนดและสร้างกรอบให้โครงคิ้ว

ขั้นตอนที่ 2 ด้านหัวฟองน้ำที่มาพร้อมโบรว์ไลเนอร์แบบฝุ่นสำหรับเติมความเข้มหนาอย่างเป็นธรรมชาติ

ขั้นตอนที่ 3 หัวแปรงปัดอ่อนนุ่มสำหรับเกลี่ยและจัดเรียงเส้นคิ้วให้เรียงตัวสวย



ต่อด้วยตากันบ้าง :) COLOR RICHE LES OMBRES

"ลอรีอัล ปารีส คัลเลอร์ ริช เลอ ออมเบรอ" อายแชโดว์เนื้อครีมเนียนละเอียดมากๆๆ ติดทน เกลี่ยง่าย ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ “WET COLOR BOOST TECHNOLOGY”  มี 4 เฉดสีในตลับเดียว ตัวนี้เป็น 1 ใน สีสัน จาก กลุ่ม Essential  ซึ่งมอบลุคที่ดูเป็นธรรมชาติทว่ายังคงความเรียบหรูและมีไสตล์

สี E4 Absolute Taupe
  

มี Mini How To ในการแต่งตาเบาๆ สวยจริงๆ คอนเฟิร์มมม
เป็น Soft Smoky ที่แต่งไปทำงานได้จริงๆ ค่ะ


บรัชออน LUCENT MAGIQUE BLUSH OF LIGHT GLOW PALETTE

"ลูเซนท์ เมจิก บลัช ออฟ ไลท์ โกลว์ แพเล็ต" สี 02 Fuchsia Flush บลัชออน 3 มิติ จริงๆ 

สีแจ่มจรัสมากค่ะ เห็นแก้มมาแต่ไกลเลย เพราะฉะนั้นเวลาปัดระวังด้วย เดี๋ยวหน้าจิแดงเป็นตูดลิง สีสวยจริง แต่ชิมเมอร์เยอะมากๆๆๆ ปัดแล้วดูหน้ามันไปเลย แนะนำว่าใช้เป็น ไฮไลต์ หรือแต่งไปงานกลางคืนจะเหมาะกว่าค่ะ :) จะโกลว์ ได้ใจนะ


ลิปสติก COLOR RICHE สี P511 Touch of Amaranth

สีนี้แบบ สีเดียวกับยูนิฟอร์ม อุ๋มเด๊ะนะคะ เนื้อลิปนุ่มนิ่ม ไม่ทำให้ปากลองเป็นขุยเลย สีก็สวยแจ่มชัดด้วย
นี่ละค่ะสีที่อุ๋มทาไปบินบ่อยๆ :)

เค้ามี 14 เฉดสีใหม่ สีสวยสดชัด ติดทนนาน พร้อมบำรุงริมฝีปากชุ่มชื่นตลอดวันด้วยน้าา


และขอแนะนำยาทาเล็บที่เข้ากั๊นน เข้ากัน ลอริอัล เค้าก็มีค่ะ ลองไปหาดูนะคะ

เพราะปกติอุ๋มจะทาเล็บกับปากสีเข้ากันเวลาไปทำงานเลยหามาไว้คู่กันเลยค่ะ


ยาทาเล็บ COLOR RICHE LE VERNIS 

ยาทาเล็บด้วยเทคโนโลยีสูตรเจล ที่ให้ผลลัพธ์สีสวยสดชัดติดทน กั๊บบ


สุดท้ายย ลิปสติกเนื้อกลอส SHINE CARESSE 

เนื้อสัมผัสบางเบาแต่ให้สีที่สดชัดและติดทนนาน เกลี่ยง่ายมากๆ มี 8 สีให้เลือกแหน่ะ
แต่สีนี้ถูกใจที่สุดดดด เบอร์ 702 Juliete นะคะ เข้ากับเล็บแดงมากๆๆ
แล้วพกง่าย ทาง่าย ไม่แดงติดฟัน ชอบเลย !!

พกไปบินทุกไฟลท์เช่นกันนน



วันนี้ขอจบ SET จาก L'OREAL PARIS ไว้เพียงเท่านี้ก่อนน :)
ถ้ามีอะไรมาอัพเดทอีกก็เจอกันได้เลยย


ป.ล. อย่าลืมเข้าไปกดไลค์เพจกันน






10.27.2013

[Review] Head and Shoulders สูตรใหม่ หอมชื่นใจจัง

     สวัสดีค่ะทุกคน โอ๊ยย อุ๋มหายไปนานมาก ต้องขอโทษจริงๆ เพราะว่าอุ๋มติดอยู่ในช่วงเตรียมติดปีกค่ะ ใกล้ละ ใกล้จะได้บินเต็มที่แล้วค่ะ ช่วงนี้เทรนน้อยหน่อยเลยว่างมาอัพค่ะ ทุกคนสบายดีไหมคะ ส่วนอุ๋มช่วงที่นอนน้อย ก็ออดๆ แอดๆ ค่ะ เพราะฉะนั้น พักผ่อนกันเยอะๆ นะคะ ดูแลทั้งสุขภาพกายและใจให้ดี ตลอดนะคะ :)

     เอาเป็นว่าเรื่องที่จะอัพเดท และรีวิวกันในวันนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญกับชีวิตอุ๋มทีเดียวละ สาวๆ คงทราบกันว่าด้วยอาชีพ แอร์อย่างอุ๋ม ต้องทำผมออกจากบ้านทุกวัน และต้องรวบตึงดีงรั้งหนังศีรษะทุกวันค่ะ บางวันอุ๋มสระผมยังไม่ทันแห้งดีต้องรวบแล้ว เพราะอุ๋มตื่นสาย T-T … หลังจากนั้นจะเกิดอะไรตามมาคะ แต่น แต๊นนนนน รังแค ไง !!!! แล้วมันแย่มากกับ ภาพลักษณ์ของแอร์สวยๆอย่างเรา  ^_^  อุ๋มก็เลยไปหอบหิ้วแชมพูขจัดรังแคมาใช้จนได้ค่ะ ตอนก่อนหน้านี้ไม่ค่อยแคร์นะ แต่ถ้าต้องใส่ Uniform แล้วมีรังแคสีขาวๆ เนี้ย พังนะ พัง ที่สำคัญ เคยเป็นรังแคกันไหมคะ มันจะคันหัวแบบสุดๆ บ่อยๆ ล่ะ ก่อนที่จะมาเป็นแอร์ก็ไม่ทราบ แต่ว่าระหว่างการให้บริการ ห้าม!! เกาหัวหูหน้าตา อย่างเด็ดขาดนะคะ ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วควรใช่ไหมคะ แก่การ กำจัดรังแค !! 


     ก่อนจะรักษา ว่าแต่ รังแค คือ อะไร ?? รังแคเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง เกิดขึ้นที่บริเวณหนังศีรษะ โดยทั่วไปเกิดขึ้นที่บริเวณหนังศีรษะที่พัฒนาในระหว่างการเจริญเติบโตตามปกติ ผิวของเซลล์เก่าในหนังศีรษะตายและหลุดออกมา นั่นจึงเรียกว่า รังแค และพอเป็นรังแคก็จะคันหัว แต่อย่าใช้เล็บขูดหรือเกาหนังศีรษะเด็ดขาด !! เพราะอาจจะขูดหนังศรีษะจนเป็นแผล และเป็นการกระตุ้นให้เกิดรังแคเพิ่มขึ้นอีกด้วย ฮือออออออออ ที่สำคัญสิ่งที่รังแคสร้างคือ ความไม่มั่นใจ และ ความไม่มั่นใจ !! 



     ถ้าคิดถึงแชมพูขจัดรังแคคิดถึงยี่ห้ออะไร  Head & Shoulders คร่ะ ฮ่าๆ บอกเลยนึกออกอย่างเดียวที่ฉลากสีฟ้าๆ จำได้เลย แต่ว่าก็ต้องแปลกใจเดี๋ยวนี้ไม่ได้มีแค่สีฟ้าแล้วนะคะ อุ๋มได้สีชมพูมาล่ะ อันนี้เป็นสูตรผมนุ่มสลวยเป็นเงางาม Smooth & Silky ค่ะ เป็นสูตรปรับปรุงใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ด้วยนะ เพิ่งมีงานเปิดตัวไปเลย (ข้อมูลจาก เพจ Head and Shoulders Thailand)




     ข้อมูลคร่าวๆ ที่สืบมาสำหรับสูตรผมนุ่มสลวยเป็นเงางาม ที่อุ๋มไปถอยมานั้น พัฒนาการกักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มประสิทธิภาพการดูแล และการบำรุงในส่วนประกอบหลักให้ผมนุ่มสลวย เป็นเงางาม ดูเปล่งประกาย นอกจากนี้ยังจะช่วยดูแลสมดุลความชุ่มชื้นของเส้นผม เข้าจัดการกับปัญหาผมแห้งเสีย ชี้ฟู ไร้น้ำหนัก ให้มีดูสุขภาพดียิ่งขึ้น ที่สำคัญ หอมจริงอะไรจริง เขาว่าสูตรใหม่นี้ ใช้ เฟรช เบิร์สต์ เทคโนโลยี (Fresh Burst Technology) เป็นนวัตกรรมกลิ่นหอมใหม่คิดค้นขึ้นเพื่อให้กลิ่นหอมกระจายตัว จะได้สระผมอย่างลั่ลล๊าควบคู่ไปกับการขจัดรังแค ที่ยังคงประสิทธิภาพ และ ซิงค์ไพริไทโอน (ZPT) ช่วยขจัดรังแคที่มองเห็นได้สูงถึง 99% พร้อมจะช่วยเติมเต็มความมั่นใจให้คุณสามารถใกล้ชิดคนที่คุณรักได้ใกล้ขึ้น เพียงลองมาพิสูจน์ดผมสวยไม่มีรังแค สูดกลิ่นที่หอมขึ้นอีกระดับ และสัมผัสความแตกต่าง

อู้ววว

ราคาก็ตามนี้เลยนะคะ อันนี้เป็น ขนาดที่อุ๋มซื้อมา
Head & Shoulders Smooth & Silky Shampoo ขนาด  350  มล.  ::: ราคา  150   บาท
Head & Shoulders Smooth & Silky Conditioner ขนาด  170  มล.  ::: ราคา 89  บาท

มาดูเนื้อครีมแชมพู และครีมนวดบ้างง


นวลเนียนน่าใช้ ที่สำคัญ แค่บีบออกมาจากขวดก็ได้กลิ่นหอมหวาน น่าใช้แล้วค่ะ ระหว่างสระผมนี่กลิ่นหอมสดชื่น มีฟองนุ่มๆ ฟรุ้งๆ สบายหัวจัง สระเสร็จรู้สึกสดชื่นอารมณ์ดีไปทั้งวัน .. พูดแล้วอยากสระผมเลย


ยังไงก็แล้วแต่ต้องกำจัดรังแค ให้ได้ก่อนใส่เครื่องแบบสีม่วงของอุ๋มนะ ถ้าใส่แล้วรังแคกองเต็มเสื้อนี่ไม่งามชัวร์ !! และอีกอย่างนึงตอนนี้เห็นในเพจเขาโปรโมทกันถึง Campaign มั่นใจกอดกันใกล้ขึ้น โดยจะมี HUGBOOTH ตั้งอยู่ตามโรงภาพยนตร์ต่างๆ เพื่อลุ้นรับรางวัลด้วยนะคะ ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ www.hugbooth.com แล้วอย่าลืมหาคนไปกอดแนบชิดพร้อมถ่ายรูปแบบมั่นใจไร้รังแคกันนะ ไปไหม ไปกัน ไปกันนนน :D 





ตอนนี้อุ๋มใช้แชมพูและครีมนวดของ Head and Shoulders มาได้ 2 สัปดาห์แล้วนะคะ รังแคหายไปเยอะแล้วจริงๆ ค่ะ แต่ที่สำคัญก่อนมัดผมทุกครั้ง ควรไดร์ผมให้แห้งด้วยนะคะ แชมพูและครีมนวด อาจไม่ใช่แฟคเตอร์เดียว เพราะฉะนั้น ดูแลสุขภาพหนังศีรษะกันให้ดีๆ นะคะ เดี๋ยวผมล่วงหมดหัวไปไม่รู้นะ ฮ่าๆๆ ตอนนี้รังแคหายไป มั่นใจขึ้นเยอะ


เป็นไงล่ะ สุดท้ายก็พาน้องชายไป HUGBOOTH สำหรับใครที่มีแฟนก็อย่าลืมพาไปนะคะ
กอดกันมั่นใจไร้รังแคจริงๆค่

อัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ : สถานที่ตั้งของโฟโต้บูทใน 7 โรงภาพยนต์

1. พารากอน Cineplex
2. เมเจอร์ รัชโยธิน-เขตจตุจักร
3. เมเจอร์ ปิ่นเกล้า-เขตบางพลัด
4. เมเจอร์ แฟชั่นไอส์แลนด์-เขตคันนายาว
5. เมเจอร์ รังสิต- อำเภอธัญบุรี
6. เอสเอฟ บางกะปิ-เขตบางกะปิ
7. เอสเอฟ เซ็นทรัลเวิลด์- เขตปทุมวัน
8. และ office building ทั่วกรุงเทพ

โดยเพื่อนๆ ที่ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถเข้าไปดูวันและสถานที่สำหรับร่วมกิจกรรมที่จะสลับหมุนเวียนกันไปในแต่ละสัปดาห์ได้ที่ http://www.hugbooth.com/ เลยนะคะ ได้ข่าวว่ามีการแจกตั๋วชมภาพยนต์สำหรับผู้ร่วมกิจกรรมที่บูธด้วยยยย รีบไปด่วน !!! เดี๋ยวอุ๋มไปถ่ายรูปแล้วจะอัพเดทรูปลงในเพจนะคะ อย่าลืมไปเจอกันในเพจอุ๋มนะคะ



9.06.2013

REVIEW :: ครีมเปลี่ยนสีผม Schwarzkopf Palette และ Syoss Repair Therapy

สวัสดีค่ะ ทุกคนวันนี้กลับมาพร้อมกับรีวิวสั้นๆ ค่ะ เนื่องจากอุ๋มไปทำสีผมมาใหม่ล่ะ !!
ตื่นเต้นมาก เพราะ ไม่ได้ทำผมสีเข้มมาน๊าน นาน เอาจริงๆ คิดว่าไม่ได้ทำมา 5 ปีแล้วนะสีเข้มแบบนี้
ก็เลยจัดมาค่ะ ต้องขอบคุณ Schwarzkopf ด้วยนะคะ ที่ส่งครีมเปลี่ยนสีผม Palette
หรือ พาเลตต์ สูตรน้ำมัน 7 ชนิด (PALETTE 7 OILS) มาให้อุ๋มถึง 3 กล่อง :)


ให้ดู Before-After ก่อนเลยค่ะ 

ก่อนไปทำสีและบำรุงผมครั้งนี้ สภาพผมและสีผมของอุ๋มน่าเกลียดมากจริงๆ ช่วงนี้ทั้งทำสีทั้งดัด ไม่ค่อยมีเวลาดูแล และไม่ได้เล็มปลายมานานมากๆ แล้ว ครั้งนี้เลยจัดไปเซ็ทใหญ่ค่ะ

มาเริ่มทำสีกันเลยดีกว่า พี่ริน ช่างทำผมของอุ๋มในวันนี้บอกว่าใช้ 2 กล่องก็พอค่า


Schwarzkopf เคลมมาว่าาา ครีมเปลี่ยนสีผม Palette สูตรใหม่นี้ ....

เป็นครีมเปลี่ยนสีผมถาวร ที่ผสานเม็ดสีที่เข้มข้นพิเศษ และสูตรบำรุงของน้ำมันหลากชนิด ปกป้องและฟื้นบำรุงเส้นผม ให้ผลลัพธ์สีผมที่อิ่มสวยติดทนนาน เป็นประกายเงางามด้วยค่ะ ด้วยสูตรที่ผสานคุณค่าของน้ำมันบำรุง 7 ชนิด* ที่ช่วยดูแลและบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึกหลังการเปลี่ยนสีผม 
*น้ำมัน 7 ชนิด ประกอบด้วย: 
1. Marula Oil : น้ำมันมารูล่า
2. Argan Oil : น้ำมันอาร์กัน
3. Sesame Oil : น้ำมันงา
4. Almond Oil : น้ำมันอัลมอนด์
5. Olive Oil : น้ำมันมะกอก
6. Apricot Kernel Oil : น้ำมันเมล็ดแอพพลิคอท
7. Macadamia Nut Oil : น้ำมันแมคาเดเมีย

โดยมีให้เลือก 10 เฉดสีค่ะ วันนี้อุ๋มย้อมสี 3-0 หรือสีน้ำตาลเข้มค่ะ โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นปิดผมขาวแนบสนิท 100% ด้วยนะคะอุ๋มเอามาปิดผมสีเดิมของอุ๋มค่ะ :D ฮ่าๆๆ เพราะผมยังไม่หงอกนะ !! ครีมเปลี่ยนสีผมพาเลตต์กล่องนี้ ราคากล่องละ 169 บาท ค่ะ หาได้ทั่วไปเลยยย

พอย้อมเสร็จแล้วก็รอเวลาค่ะ นั่งเล่นเกม เล่นไลน์ เล่นเฟสบุ๊คคค ....

เวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที หรือ 45 นาทีนี่ล่ะค่ะ ><" ฮ่าๆๆ ไม่ได้ดูนาฬิกาเลย!


ผมเสียขนาดหนักขนาดนี้อุ๋มเลยต้องหิ้วแชมพู-ครีมนวด-ทรีทเม้นท์ มาจากบ้านเองเลยค่าา !! วันนี้อุ๋มเอา Syoss มาเองค่ะ แต่เป็นตัว Repair Therapy ถ้าเคยใช้ Syoss กันต้องเคยเห็นขวดแบบนี้แต่เป็นตัวอักษรสีเขียวแน่ๆ อันนั้นเป็นสูตร Moisture ธรรมดา แต่ไม่บำรุงผมเสียล้ำลึกแบบนี้ค่ะ

ที่ฟาดดดมาทั้ง แชมพู-ครีมนวด-ทรีทเม้นท์ เลยค่ะ เพราะว่าผมอุ๋มทั้ง ย้อม ดัด ไดร์ ม้วน !!


ต้องมาดูกันต่อไปว่า ผมอุ๋มจะสามารถกลับมาดีได้ไหมมม ... ต้องติดตามตอนต่อไปค่ะ


อ๊ะ ย้อมเสร็จแล้วค่าาาา !!! กลับบ้านมาแบบผมดำสนิททท เอาจริงๆ ทุกคนตกใจเล็กน้อย 

แต่จริงๆ แล้วในแสงธรรมชาติจะเป็นสีน้ำตาลเข้มค่ะ ประมาณสีโค้กนะคะ เดี๋ยวจะถ่ายรูปมาให้ดูกลางแดดอีกทีนึง ผมเปลี่ยนสีแล้วอารมณ์เปลี่ยนมากเลย กลายเป็นหน้าเข้มมาก ย้อมเสร็จแล้วผมยังดีอยู่เลยค่ะ เพราะวันนี้บอกพี่ที่ร้านว่า ขอทรีทเม้นท์เต็มๆๆ แต่จริงๆ แล้วเท่าที่อ่านข้างกระปุกทรีทเม้นท์ของ Syoss ตัว Repair นี่ บอกว่าหมักไว้แค่ 3-5 นาที พอนะคะ แค่นีก็ช่วยให้เกล็ดผมที่อ้าๆ พังๆ อยู่สมานกันได้ล่ะ 

ผมดูดีขึ้นมากกกๆๆๆ ค่ะ หลังจากย้อมสีดำ และเล็มปลายออก :D ดีใจจังง :)


ชอบลุคใหม่อุ๋มกันไหมคะ วันนี้แอบให้พี่ริน ช่างทำผมไดร์ม้วนปลายเล็กน้อย :) ร้านนี้ร้านประจำอุ๋มอีกที่หนึ่งค่ะ ชื่อร้าน Ai-Spa อยู่แถวๆ บ้านอุ๋มเลยยังไงอุ๋มจะลงรายละเอียดไว้ในเพจ PannitaP Blog นะคะ 

วันนี้โดนค่าเสียหายไปน้อยมาก โดยอุ๋มเอาสีทำผมมาเอง ค่าย้อม 500.- บาท เท่านั้นน !! และค่าสระ-ซอย-หมัก-ไดร์ อีก 200.- บาท โอ๊ย ทำผม 3 ชม. 700.- บาท คุณพระช่วย 

ฮ่าๆ ดีค่ะ สบายกระเป๋าเลย ยังไงถ้าสนใจก็มาทำกันได้ สวยและถูกและดี 

วันนี้ไปก่อนนะคะ ครั้งหน้าเจอกันกับรีวิวอะไร อย่าลืมติดตามนะค่ะ ... สวัสดีค่ะ

แถมม ::: เปลี่ยนลุคง่ายๆ ไม่ยาก อุ๋มไปซื้อวิกผมหน้าม้ามาค่ะ :) อันนี้สอยมาจาก ร้านพี่นนท์ หลังการบินไทย ซอย 3 พี่นนท์น่ารักมากก สอนทำผม 8 ทรงรวดดแบบพร้อมบินกันเลยทีเดียว ฟาดดอุปกรณ์ทำผมไม่พอ สอยยวิกผมหน้าม้ามาด้วย 200 กว่าบาทเอง :) เด็กสมใจเบย


8.31.2013

Workshop กับ Collection ร้านบู๊ทส์ และคุณโมเมพาเพลิน ค่ะ :D

สวัสดีค่า :) 

     วันนี้จะมาเล่าให้ฟังถึง Makeup Workshop กับ เครื่องสำอางจากเกาะอังกฤษ แบรนด์ Collection ซึ่งร่วมกับ ร้านบู๊ทส์ และ คุณโมเม (โมเมพาเพลิน) เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้วค่ะ งานจัดที่ห้องเวิร์คชอปที่เซ็นทรัลชิดลม รวมเวลากว่า 3 ชม. เลยนะคะ ก่อนอื่นต้องขอบคุณทางแบรนด์มากๆ ที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้นะคะ แล้วสำหรับสาวๆ หลังจากอ่านบล๊อกนี้แล้วอุ๋มเชื่อว่าต้องอยากไปร่วมเวิร์คชอปแต่งหน้าแบบอุ๋มแน่ๆ ค่ะ เพราะได้ความรู้ ใหม่ๆ มาแบบเต็มๆ แถมได้เครื่องสำอางใหม่ๆ เล็กๆ น้อยๆ ติดมือมาด้วยนะคะ 

     อุ๋มเองเป็นแฟนของแบรนด์ Collection อยู่แล้ว เนื่องจากหนึ่งเลย คือ ราคาเป็นมิตร ค่ะ และสองคือ หาซื้อได้ง่าย เดินเข้าร้านบู๊ทส์ หรือ วัตสัน ก็ฉกมาได้ทุกที ครั้งละชิ้นสองชิ้น ตอนนี้มีเต็มตู้แล้วค่ะ ก็มาดูกันเลยดีกว่า ว่าอุ๋มได้อะไรมาบ้าง และบรรยากาศวันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง โดยวันนี้จะเล่าสั้นๆ ถึงส่วนของเวิร์คชอป และจะรีวิว เครื่องสำอางจากแบรนด์ Collection ในครอบครองของอุ๋มด้วยนะคะ 

ป่ะ เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ

 

ฮ่าๆๆ ก่อนอื่น จะไปเวิร์คชอป แน่นอนว่าต้องมาด้วยหน้าสดๆๆ ค่ะ แต่ถ้าไม่สดมา ก็มี Cleansing Wipes จาก Boots ให้ใช้ค่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้ลองกระดาษเช็ดเครื่องสำอางค์จาก Boots ชอบเลยค่ะ กลิ่นหอม และไม่ระคายเคืองตา แต่ถ้าถามว่าจะถลกกก มาสคาร่าชั้นหนาออกได้ไหมนั้น อันนี้อาจจะต้องเจ็บตาค่ะ อุ๋มแนะนำว่า ใช้ Cleansing Oil เช็ดรอบดวงตาก่อน ส่วนช่วงใบหน้าใช้ตัวกระดาษนี้จะเวิร์คกว่าค่ะ :)

และผู้มาให้ความรู้ และเทคนิคการแต่งหน้าในวันนี้ คุณโมเมค่ะ ไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูปคู่เลย เสียดายมาก แต่ไม่เป็นไร หวังว่าโอกาสหน้าคงมีโอกาสค่ะ ในเวิร์คชอปครั้งนี้คุณโมเม ให้เทคนิคและความรู้เต็มที่เลยค่ะ แล้วอุ๋มจะค่อยๆ แชร์ไปนะคะ


กรี๊ดดดดดดดด ไป 1 ตลบค่ะ เพราะว่าชอบสีสันมากกก ปกติก็อย่างที่เห็นกันว่าแต่งหน้าออกจากบ้านไม่มีโอกาสได้ใช้สีสันอะไรมากมาย แต่เราต้องกล้าที่จะเปลี่ยนค่ะ :) วันนั้นอุ๋มเลยมีโอกาสได้เล่นสีสันต่างๆ กับการแต่งตาด้วย สนุกเลยย

 

ลุคที่แต่งในวันนี้คะ อันนี้เป็นลุคที่ 2 คือ  Sophisticated Girl โดยได้แต่งด้วยกัน 2 ลุค คือ

1. Metropolitan Girl ลุคสาวทำงาน สวย กระฉับกระเฉง ด้วย Earth Tone แต่งเติมด้วยสีสันเล็กๆ เพื่อความสดใส แตกต่าง เพิ่มเติมสีสันได้ง่ายๆ รวดเร็ว ไม่เสียเวลา
2. Sophisticated Girl เพิ่มเติมความสวยคมจากลุคสาวทำงาน เป็นสาวที่สวยสะดุดตา มีจุดที่หยุดสายตา (สวยสะดุดตาอย่างที่ไม่เคยเห็นในวันทำงาน)

 โดยใช้เครื่องสำอางของ Collection ทั้งหมดเลย มาดูกันค่ะ ว่าอุ๋มได้เล่นอะไรบ้าง

Primed and Ready Smooth Make Up Primer 
ขนาดปกติ ราคา 429.- บาทค่ะ

ตัวนี้เป็น Primer เนื้อซิลิโคนสำหรับลงก่อนการแต่งหน้า อย่างที่อุ๋มเคยรีวิวไปแล้วนะคะ อันนี้ใช้เท่าเม็ดถั่วเขียวเท่านั้น แล้วค่อยๆ นวด ลงไปบนผิว เพื่อปกปิดรูขุมขน และรอยสิวเฉพาะจุด ทำให้ผิวพร้อมรับรองพื้น และการแต่งหน้าในขั้นตอนต่อๆ ไปค่ะ ชอบตรงที่เนื้อบางมากๆ

Cover & Go Foundation and Concealer Duo
ขนาดปกติ ราคา 499.- บาทค่ะ

ตัวนี้เจ๋งมาก คือชอบจริงๆ เพราะว่าเป็นคนที่ขาด Concealer ไม่ได้ แล้ว Collection เอารองพื้นและ Concealer มาอยู่ด้วยกันค่ะ !!! คือ 1 หลอด ไปได้เลยย หมุนๆ ออกมา มีรองพื้น แต่ถ้าเปิดฝา มี Concealer และกระจก ซึ่งแน่นอนว่าสีของ Concealer และรองพื้นนั้นเป็นสีที่เข้ากัน 

กรี๊ดดดดดดดดด !!

คือชอบมากจริงๆ อุ๋มใช้ เบอร์ 3 Fair ถึง เบอร์ 5 Medium ค่ะ คือ นำ 2 สีนี้มาผสมกันจะได้สีที่พอดีค่ะ


นี่เป็นรูปที่อุ๋มลองใช้ ตัว Cover & Go ค่ะ 
1. รูปแรกทาแค่ครีมบำรุง
2. รูปนี้มา ทารองพื้น เบอร์ 3 Fair เดี่ยวๆ ค่ะ จะเห็นว่ารองพื้นเนื้อตัวนี้เป็นแบบปกปิดปานกลาง หรือ Medium Coverage แต่เนื้อบางดูเป็นธรรมชาติมากๆ ค่ะ
3. ใช้ Concealer สีเบอร์ 3 เช่นกัน ปกปิดรอยคล้ำใต้ดวงตา
4. ทาแป้งฝุ่นทับค่ะ

ชอบมากๆ เพราะง่ายต่อการพกพาที่สุด และไม่ต้องเสียเวลาเลือกสีด้วยค่ะ

อันนี้อุ๋มถ่ายรวมๆ มาให้ดูนะคะ

ซ้ายบน : Mosaic Glow เป็น บรอนซ์เซอร์ ใช้ปัดทั่วหน้าเพิ่มความวิ๊ง หรือใช้ทำเฉดดิ้งเพื่อให้หน้าดูมีมิติ
ขวาบน : Perfecting Minerals Foundation ตัวนี้เป็นแป้งฝุ่นผสมรองพื้นและคอนซีลเลอร์ใน 1 ขั้นตอนค่ะ และขนาดจริงที่ขายตามร้านจะมีแปรงในตัวด้วยทำให้ง่ายต่อการพกพามาก แต่ต้องบอกก่อนว่าแป้งกลุ่มนี้ไม่ควรใช้พร้อมกับรองพื้นหนาๆ ในตอนการแต่งหน้าตอนเช้าก่อนออกจากบ้านนะคะ เพราะ จะทำให้หน้าหนัก และดูเยอะมาก รวมทั้งระหว่างวันหน้าจะละลายย ควรใช้แป้งประเภทนี้ไว้เติมบางๆ ระหว่างวันค่ะ
ซ้ายล่าง : Blush & Hightlight Cream Duo 2 in 1 อันนี้เป็น บรัชออนเนื้อครีม มาพร้อมกับไฮไลต์เลยค่ะ เนื้อนุ่มๆ เกลี่ยง่ายดี และง่ายต่อการพกพา มีสองสีคือชมพูกับส้มค่ะ อุ๋มชอบสีส้มมาก ทาหลังจากลงรองพื้น ก่อนทาแป้ง สีสวยยย
ขวาล่าง : Shimmer Shades เป็นบรัชออนและบรอนเซอร์และไฮไลต์ประมาณนั้นค่ะ มี 4 โทนอยู่ในตลับเดียวเลย อุ๋มรู้สึกว่าถ้าจะซื้อใช้คงเลือกซื้ออันนี้คะเพราะครบดี ชอบพกอะไรน้อยๆ ฮ่าๆ


Pop Tastic Eye Palette ราคา 369.- บาท
พาเลทนี้เหมาะ สำหรับคนชอบสีสันค่ะ แฟนซีสุดๆ กันไปเลย

 

Smokey Eye Palette ราคา 369.- บาท
พาเลทนี้ Neutral แบบสุดๆ แต่งได้ทุกวันแน่นอน ควรเป็นพาเลทเริ่มต้นในการเริ่มแต่งหน้าค่ะ เพราะมีถึง 9 สีง่ายๆ ให้แต่งตา ซึ่งเป็นสีที่ใช้ประจำแน่นอน :)


Metallic Cream Eyeshadow ราคา 269.- บาท
เป็นอายแชโดวเนื้อครีมติดทนนาน แต่แห้งเร็วมาก พอป้ายออกมาต้องรีบๆ เกลี่ยนะคะ ไม่งั้นจะเกลี่ยได้ไม่เนียนและจะเป็นก้อนๆ ที่เปลือกตา


อุ๋มเอามาใช้แทน Eye Primer แล้วลง Eye Shadow เนื้อฝุ่นทับ ทำให้ติดทนนานมากขึ้นค่ะ อันนี้อุ๋มได้กลับบ้านมาด้วย เป็นตัวสี Copper Pot ค่ะ 


หลังลงอายแชโดวเนื้อฝุ่น แค่กรีดอายไลเนอร์ ก็เสร็จแล้วค่ะ ทำให้แต่งหน้าเร็วขึ้นด้วยนะคะ เพราะเหมือน เบสของตาเราเป็นสีอยู่แล้ว ลงฝุ่นอีกแค่ขั้นตอนเดียว


Intense Color Supersoft Kohl Eyeliner ราคาแท่งละ 139.-
ชอบอายไลเนอร์สีๆ นี่ที่สุดเลยค่ะ เพราะตัวดินสอเนื้อนุ่มมาก ไม่เจ็บตา อุ๋มได้ทดลอง 2 สีนี้คือ สี Peacock Feather อันที่ออกเขียวๆ หน่อย ส่วนสีฟ้าชื่อ Blue Belle ค่ะ ชอบทั้ง  2 สีเลย เปรี้ยวว สุดดดๆ 



ในเวิร์คชอป ก็จบประมาณเท่านี้ค่ะ :D ครั้งหน้ามาพบกับรีวิว เครื่องสำอาง Collection แต่ละชิ้นที่อุ๋มได้รับมา รวมทั้งที่ซื้อเองด้วยนะคะ แล้วเจอกันอีกคราวหน้านะคะสาวๆ แค่นี้ก็จดลิสต์ไปช๊อปจากแบรนด์นี้กันไม่ทันแล้วใช่ม๊าา ราคาถูกใจ ไม่ทำร้ายกระเป๋า แถมคุณภาพใช้ได้เลยด้วย



สำหรับสาวๆ ที่อยากติดตามกิจกรรมของ แบรนด์ Collection สามารถเข้าไปที่ www.facebook.com/CollectionThailand เลยนะคะ

แล้วบล๊อกหน้าเจอกันใหม่นะคะ


มีรูปให้ดูคร่าวๆ ก่อนว่าจะรีวิว อะไร :D


หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถตามมาถามที่เพจของอุ๋มได้เลยนะคะ ไม่ว่าจะโพสต์ถามหรือ Inbox มาถามอุ๋มยินดีอย่างยิ่งเลยค่ะ แล้วเจอกันอีกทีบล๊อกหน้าค่ะ วันนี้ไปแล้ววว

สวัสดีค่ะ







8.30.2013

รีวิว FACE PRIMER ยี่ห้อต่างๆ by PannitaP

     เคยไหมคะที่เห็นนักแสดง ดารา ทั้งหลาย ในจอและนอกจอทีวี แล้วคิดอยู่ในใจลึกก ลึ๊กก ว่า ทำไม หน้าดาราที่คุณชื่นชอบ ถึงเนียนเรียบ? รูขุมขนไม่กว้าง? ใบหน้าไม่มัน?  แต่เวลาเราแต่งเองแล้ว แต่งไม่ติด แต่งหน้าแล้วรองพื้นไหลบางทีก็เป็นเส้นๆ ตามร่องของผิว รูขุมขนกว้างเห็นชัดขึ้นระหว่างวัน หรือรอยแดงตามส่วนต่างๆ ของใบหน้าทะลุรองพื้นออกมาให้เห็น ... อย่าเศร้าในโชคชะตาไปค่ะ เพราะแค่เพิ่มขั้นตอนสั้นๆ ไปอีกขั้นตอนเดียวในการเมคอัพ ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป นั่นคือการใช้ Face Primer หรือ ไพรเมอร์ กับผิวหน้าของเราก่อนการแต่งหน้านั่นเอง 

ทำไมต้องใช้ ไพรเมอร์

     เพราะการแต่งหน้านั้นก็ไม่ต่างกับการทาเล็บ หรือแม้กระทั่งการทาสีบ้านทา เพราะการจะทาสีลงไป เราก็ต้องปรับพื้นผิว หรือเตรียมพื้นผิวซะก่อน เพื่อให้สีทีทาลงไปติดได้ทนทานนานยิ่งขึ้น ไพรเมอร์ นั่นเองที่จะมาทำหน้าที่ช่วยเตรียมผิว และปรับพื้นผิวหน้าของเราให้พร้อมก่อนแต่งหน้า โดยทำหน้าที่กระชับรูขุมขน ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง ผิวดูกระชับขึ้น ร่องรอยบนใบหน้าดูตื้นขึ้น ทำให้เครื่องสำอางติดทนและเนียนมากขึ้น และทำให้ผิวหน้าของเราดูไม่มีตำหนิ หรือมีตำหนิน้อยลง แถมป้องกันไม่ให้ผิวหน้าหมองคล้ำระหว่างวันได้อีกด้วย

ไพรเมอร์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ

- คนที่มีรูขุมขนกว้าง หรือไม่ผิวไม่เรียบเนียน
- คนที่แต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางติดไม่ทนนาน ลบเลือนง่าย
- คนที่ไม่ใช้รองพื้น

ปัญหาของการเลือก ไพรเมอร์

     นั่นคือการเลือก Primer ที่เหมาะกับผิวหน้าของเราๆ ซึ่งนั่นยากพอๆ กับการเลือกสีรองพื้นที่ถูกต้องเลยทีเดียว อุ๋มใช้เวลาทดลอง และโดนค่าเสียหายไปเยอะกับการซื้อผลิตภัณฑ์มาลองผิดลองถูก สิ่งที่เราควรมองหา คือ Primer ที่มีเนื่อเบา ไม่อุดตันตามรูขุมขน และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้หน้าของเรามีผิวที่เหมาะแก่การแต่งหน้าในขั้นตอนต่อไป

     วันนี้อุ๋มจะมาพูดถึง Primer ต่างๆ ที่อุ๋มมีในครอบครองค่ะ อาจจะไม่มากนัก แต่เป็นยี่ห้อที่หาซื้อได้ในประเทศไทย และราคามีหลาย ระดับตั้งแต่เป็นพัน จนถึงเป็นร้อย อยากให้เพื่อนๆ ลองมองหา Primer ที่เหมาะกับผิวหน้าตัวเองดูค่ะ เพราะอุ๋มก็เป็นคนนึงที่ขาด Primer ไม่ได้ไปเสียแล้ว

ขั้นตอนการทาไพรเมอร์
เตรียมผิวหน้าด้วยการทา มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทั่วใบหน้าและลำคอ ตามด้วย ครีมกันแดด คลึงผิวเบาๆ สัก 1 นาที เพื่อให้ครีมซึมซาบสู่ผิว และผิวดูนุ่มนวลเปล่งปลั่ง ปล่อยหน้าให้แห้งซักแป๊บนึง จึงค่อยทาไพรเมอร์

- แต้มไพรเมอร์ทีละส่วน (ไม่ควรแต้ม 5 จุดแล้วทา) ใช้นิ้วมือเกลี่ยกึ่งนวด เบาๆ
- เริ่มเกลี่ยไพรเมอร์บริเวณแก้ม โดยเกลี่ยในทิศทางลงมาที่ลำคอ
- เกลี่ยที่กึ่งกลางหน้าผากออกมาทางด้านข้าง
- ทาบริเวณจมูก ปลายคาง และเปลือกตา อย่าละเลยปีกจมูก และปลายตา แม้จะเป็นจุดเล็กๆคะ
- จากนั้นก็เข้าสู่การแต่งหน้าตามปกติคะ.

มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลยค่ะ

TOO FACED : Primed and Poreless
Skin smoothing face primer, Multi-benefit skincare makeup


ตัวนี้เป็น ไพรเมอร์ จาก แบรนด์ Too Faced ที่สามารถหาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้า 
ราคาหลอดละ 1,750 บาท ขนาด 45 ml ค่ะ
อุ๋มคิดว่าราคาสูงทีเดียวค่ะ แต่มาดูคุณภาพของเจ้าตัวนี้กันนะคะ ลองอ่านหลังกล่องดูได้
เรียกได้ว่าคุณภาพแบบ Universal ฮ่าๆ


Too Faced : Primed and Poreless ตัวนี้เป็น Silicone-base primer ค่ะ เนื้อของผลิตภัณฑ์ดู Silky นิดๆ มีลักษณะดึ๋งๆ เหมือนมูส เนื้อเป็นสีอมชมพู แต่พอทาบนใบหน้า และเกลี่ยเรียบร้อยแล้ว จะไม่เหลือสีของไพรเมอร์เลย สังเกตได้ว่าผิวไม่เปลี่ยนสีไปซักนิดค่ะ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีผิวสีไหน อุ๋มเชื่อว่าสามารถใช้ ไพรเมอร์ตัวนี้ได้แน่นอนค่ะ


ข้างซ้ายก่อนทา จะเห็นว่าอุ๋มมีร่องรอยอารยธรรมใต้ตาเยอะพอสมควร และตามช่วงแก้มมีรูขุมขนที่เห็นได้ชัดค่ะ มาดูข้างขวาหลังทากันบ้าง แค่ใช้ตาเปล่าของจะสังเกตได้เลยค่ะว่า รูขุมขนที่มองเห็นอยู่นั้นหายไป รวมทั้งร่องรอยใต้ตาดูตื้นขึ้นค่ะ ไพรเมอร์ตัวนี้ทำให้หน้าดูแมทขึ้นด้วย หน้าเนียนเสมือนถ่ายรูปด้วยแอ๊พ แต่นี่ไม่ผ่านแอ๊พใดๆ เลยนะคะ และผิวหน้านุ่มขึ้นด้วยค่ะ

อุ๋มมีโอกาสได้ใช้ TOO FACED : Primed and Poreless ตัวนี้และแต่งหน้าออกไปนอกบ้านทั้งวัน ทำนู่นทำนี่ทำนั่น จนตกเย็น ผลคือหน้ายังดูสว่างและผิวสวยอยู่ อาจมีมันเล็กน้อยช่วงหน้าผากค่ะ ถ้าถามว่าคุ้มค่าไหมกับการลงทุนครั้งนี้ อุ๋มมองว่าคุ้มค่า เพราะว่าวันนึงเราใช้เจ้าตัว ไพรเมอร์นี้นิดเดียวเองค่ะ 


Smashbox : Photo Finish Luminizing Foundation Primer
Oil-Free


อันนี้เคยเป็น Primer ตัวโปรดที่สุดของอุ๋มในช่วงที่ชอบแต่งหน้าแบบดูโกลวๆ ค่ะ เพราะด้วยความ Luminizing ของมันนี่ละ ทำให้หน้าดูวาวแบบสุขภาพดี ไม่ทำให้ดูหน้ามันด้วยนะคะ แต่ว่าตอนนี้ที่ไทยไม่มีเคาร์เตอร์ของ Smashbox แล้วเลยบอกลากันไป อยากได้ต้อง Pre-order หรือฝากคนอื่นหิ้วค่ะ ราคาที่ไทย ตอนที่มีเคาร์เตอร์นั้น คือ หลอดละ 1,690 บาท 30 ml ค่ะ


พอบีบออกมาจากหลอดจะเห็นว่า เนื้อไพรเมอร์เป็นเนื้อซิลิโคนค่ะ มีความวาว หรือชิมเมอร์ในตัวเองเลย ตัวไพรเมอร์มีสีน้ำตาลอ่อนๆ พอทาลงบนผิวจะยังมีความแวววาวอยู่ อุ๋มคิดว่าน่าจะเหมาะกับสาวสีผิวกลางๆ ค่ะ เพราะถ้าขาวหรือผิวสีเข้มเกินไป อาจทำให้หน้าหลอกได้


หลังจากทาแล้วจะรู้สึกได้เลยค่ะว่าผิวละเอียดขึ้น และมีความแวววาวสำหรับคนที่ชอบลุคสปอร์ตๆ หน่อย ดูผิวแวววาวสุขภาพดี อุ๋มแนะนำตัวนี้เลยค่ะ เพราะว่าอุ๋มเองก็ชอบ ไม่ได้ดูหน้าตึงและแห้งจนเกินไป แต่พอแต่งหน้าที่เหลือลงแป้งทับ ความวาวก็จะน้อยลงไปค่ะ 

ที่สำคัญด้วยสีของเนื้อไพรเมอร์ช่วยให้รอยกระและฝ้าบางๆ บนผิวหน้าของอุ๋มดูกลืนและหายไปด้วยทำให้ติดใจผลิตภัณฑ์จาก Smashbox ตัวนี้ แต่เสียดายหาซื้อไม่ได้แล้วค่ะ

** จากการอ่านหลายๆ รีวิวและจากความคิดเห็นคนรอบข้าง Primer ตัวนี้ไม่เหมาะสำหรับผิวมันค่ะ เพราะระหว่างวันจะทำให้หน้าเยิ้มวาว เกินความสวยไปได้ รวมทั้งผิวสีเข้มเกินไปก็ไม่เหมาะเช่นกันค่ะ เพราะจะทำให้สีหน้าดูหลอกไปเลย **

Benefit : The Porefessional
PRO Balm to minimize the appearance of pores


อุ๋มเชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักไพรเมอร์เทพตัวนี้จาก Benefit แน่นอนค่ะ เพราะว่า ไม่ว่าไปที่ไหนๆ ทุกคนเคยใช้มาแล้วหมด :) อุ๋มเองก็ใช้มาเป็นหลอดที 2 แล้วค่ะ เรียกได้ว่าเป็น ไพรเมอร์ หลอดแรกๆ ที่ใช้ ราคาที่เคาท์เตอร์ก็อยู่ที่ หลอดละ 1,150 บาท อันนี้ตอนที่อุ๋มซื้อนะคะ (ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปรึยังนะคะ)

ตัวนี้เป็น Silicone Base Primer อีกเช่นกัน ส่วนเนื้อคล้ายๆ มูสค่ะ Silkyๆ มีสีเบจอ่อนๆ ตัวนี้มีสีเดียวนะคะ เพราะพอทาไปจะกลายเป็นไม่มีสี หรือเป็นสีที่กลืนกับเนื้อไปเลยค่ะ และเนื้อเบามากๆ


มาดูกันเลยค่ะว่าหลังจากปาดลงไปชั้นบางๆ บนผิวหน้าอุ๋มแล้วเป็นยังไงบ้าง ผลก็ตามที่เห็นคะ ส่วนที่เป็นรูขุมขนเล็กๆ ก็ถูกเจ้าไพรเมอร์ตัวนี้ลงไปเติมจนเต็ม ทำให้รูขุมขนดูตื่นขึ้น รวมไปถึงเส้นใต้ตาด้วยค่ะ ก็เทพตามที่ว่าๆ กันไว้จริงๆ ค่ะ ชอบตรงที่จากสีเบจอ่อนๆ ก็กลืนไปกับใบหน้าของอุ๋มเลย แต่ว่าในส่วนของกระและฝ้า ตัวนี้ไม่ช่วยในการปรับสีนะคะ 

อุ๋มชอบตัวนี้เพราะว่าคุมมันได้ดีมากค่ะ ระหว่างวันไม่มีหน้าเยิ้มเลย แต่ต้องบอกก่อนว่าอุ๋มผิวผสมนะคะ ส่วนมากถ้าหน้ามัน ก็จะมันอยู่แค่ช่วงหน้าผากและจมูกแค่นั้น

Skinfood : Black Egg Pore Primer


มาถึงตัวสุดท้ายของ Primer แล้วค่ะ ตัวนี้จากแบรนด์ประเทศใกล้ๆ เรานี่เอง Skinfood ค่ะ อุ๋มเรียกตัวนี้ว่า "น้องไข่ดำ" เป็นตัวที่ราคาถูกที่สุดแล้ว ราคาไม่ถึง 500 บาท เลยค่ะ อันนี้ซื้อที่ไทยนะคะ ถ้าที่เกาหลีถูกกว่านี้อีก อุ๋มเลยสอยมาลอง เพราะได้ไปลองที่ช๊อปแล้วชอบค่ะ

เป็นไพรเมอร์ซิลิโคน ที่ไม่มีสีเลย บีบออกมาจากหลอดเป็น เหมือนซิลิโคนใสๆ เลยค่ะ 


อาจมองไม่เห็นความแตกต่างมากนักแต่จริงๆ เจ้าตัวนี้ปิดรูขุมขนได้ดีมาก และทำให้แต่งหน้าได้ง่ายขึ้นเยอะค่ะ ด้วยราคาที่ถูกอุ๋มว่าคุ้มดี ทาไม่ต้องเยอะมากนะคะ เพราะถ้าลงเยอะๆ จะทำให้หน้ามันระหว่างวันได้ง่าย อันนี้อุ๋มจะค่อยๆ นวดไปที่ผิวจนไพรเมอร์ซึมหมด ก็จะเป็นอย่างที่เห็นค่ะ ไม่ช่วยเรื่อง กระและฝ้า เลย เพราะว่าเนื้อไพรเมอร์ใสสนิท แต่เติมเต็มรูขุมขนได้ดีทีเดียว อันนี้ถ้าเพื่อนๆ ที่มองหาไพรเมอร์ขวดแรกมาลองดู ผิวไม่ได้มีปัญหามากนักอุ๋มแนะนำให้ลอง น้องไข่ดำ ตัวนี้เลยนะคะ :)

เย้ ... จบแล้ววว จริงๆ แล้วยังมีอีกตัวสองตัว แล้วอุ๋มจะมาอัพเดทเรื่อยๆ นะคะ
ครั้งหน้า เจอกับบล๊อกเรื่อง BB และ Foundation :) 


หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถตามมาถามที่เพจของอุ๋มได้เลยนะคะ ไม่ว่าจะโพสต์ถามหรือ Inbox มาถามอุ๋มยินดีอย่างยิ่งเลยค่ะ แล้วเจอกันอีกทีบล๊อกหน้าค่ะ วันนี้ไปแล้ววว

สวัสดีค่ะ