1.10.2015

[HOW TO] Oumm The UNDONE... มินิมอลสไตล์ ไปได้ทุกวัน :)

สวัสดีค่ะ ขอสวัสดีปี พ.ศ. 2558 อย่างเป็นทางการนะคะ

          กลับมาจากเที่ยวปีใหม่กันรึยังเอ่ย? ปีนี้มีแพลนอะไรบ้างคะ อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ ปีนี้ความตั้งใจของอุ๋มคือ จะอัพเดทบล๊อกให้มากขึ้นค่ะ ปีที่ผ่านมานั้นบินเยอะมากก แต่สนุกนะ ทำอะไรที่ชอบทำให้ปีนึงผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ กลับมาที่เรื่องสวยๆ ของเราดีกว่าค่ะ

          เดือนนี้ เดือนมกราคม อุ๋มจึงขอมาอัพเดทเทรนด์ซะหน่อยดีกว่า ได้ข่าวว่าปีนี้ เทรน UNDONE หรือ การแต่งตัวแบบไม่ต้องเนี๊ยบมาก กรีดตากริบบบ กำลังมา ... เข้าแนวอุ๋มเลย ฮ่าๆๆๆ เพราะบางทีการกรีดตาเยอะๆ ทำให้อุ๋มดูดุมากก งั้นมาลองลุคธรรมชาติๆ แบบไม่ธรรมชาติดลงโทษกันเลยดีกว่าค่ะ

เป้าหมายของลุคในครั้งนี้ คืออ
- แต่งออกมาแล้วลุคธรรมชาติ
- เลือกใช้สีสว่างสดใส
- แต่งให้ผิวดูสุขภาพดี
- หวานแบบไม่เลี่ยน ไม่มากเกินไป
- แต่งได้ทุกวัน

:)

เริ่ม!  ,,, LIST เครื่องสำอาง ในวันนี้ของอุ๋มอยู่ใต้ภาพเลยนะคะ



          เริ่มที่ผิวหน้ากันเลย ตอนนี้ Skincare อุ๋มใช้ IOPE Moistgen Emulsion Skin Hydration ตัวนี้เลยค่ะ ล้างหน้าเสร็จ เช็ด Toner แล้วลง ม๊อยส์ ตัวนี้สบายหน้าเลย เนื้อครีมหนัก แต่นุ่มมาก ซึมเร็ว เหมาะกับช่วงนี้ ที่ต้องเผชิญอากาศหนาวบ่อยครั้ง ถึงแม้ ออสซี่จะไม่หนาวแต่อุ๋มก็พกมาด้วยค่ะ  


                ตอนนี้อยู่ที่ประเทศออสเตรเลียนะคะ แดดแรงมากก ต้องทากันแดดเยอะหน่อย อุ๋มเลยพกกันแดดแบบ ฉีดๆๆ เติมได้ระหว่างวันของ Kinesys ไปด้วย ตัวนี้ SPF 30 PA+++ ค่ะ เอาอยู่ของจริง ฉีดง่ายระหว่างวันด้วย :) ส่วนครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าอุ๋มใช้ Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF 50 PA+++ ตัวนี้เลยค่ะ กันแดดสูตรน้ำที่เลิฟฟฟ ที่สุดใช้มาตลอดเลยทาแล้วซึมทันที สบายหน้ามาก และด้วยประสิทธิภาพการกันแดดที่สูง เลยมั่นใจค่ะ


          ต่อมาเลยอันนี้เป็นตัวใหม่ล่าสุด CC ครีมที่อุ๋มไปสอยมาโดยบังเอิญจากญี่ปุ่นค่ะ ด้วยแพคเกจ และหลอดน่ารัก เลยซื้อมา ฮ่าๆๆ กลายเป็นถูกใจมากก ซะงั้นเลย 

          SUGAO Airfit CC Cream SPF 23 PA+++ ตัวนี้เป็น CC หน้าใหม่ของญี่ปุ่นค่ะ แต่ผลิตภายใต้แบรนด์ผู้ผลิต Mentholatum และ Hada Labo ด้วยค่ะ ตัวเดียวเป็นได้ทั้ง กันแดด เบส รองพื้นอย่างบาง และ พอแห้งปุ๊บกลายเป็นแป้งเลย ใน 1 เดียว 

เห๊ย !!! ดีจริง

          ราคาก็ดีด้วยนะ แค่ 1,400 เยน หรือ ประมาณ 390 บาทเองง่ะ !! แต่อุ๋มไม่ทราบราคาหิ้วนะคะ หรือว่ามีแพลนจะนำมาขายที่ไทยไหมอันนี้ยังไม่ทราบเลยค่ะ แต่ชอบมากก ใครรู้ที่ขายมาแชร์กันๆ 


          หลังจากปรับผิวหน้าแล้วก็ลง รองพื้นได้ค่ะ ครั้งนี้อุ๋มใช้ Dior Capture Totale Foundation ค่ะ Dior ตัวนี้เป็น Serum Foundation การปกปิด Medium Coverage ที่เหนือเบามากกก ทาแล้วยังคงเห็นผิวหน้าอยู่ตามภาพ มีกันแดด Broad Spectrum SPF15 ด้วย โดยรวมแล้วปกปิดปานกลาง ทาแล้วหน้าไม่แมทท์ เกินไป กระจ่างใส และติดค่อนข้างทนค่ะ 


         ฉาบหน้าเป็นืั้เรียบร้อย ก็ขอปกปิดใต้ตาเล็กน้อย ด้วย Concealer จาก Soap & Glory Kick Ass Concealer เนื่องจากมีทั้งรอยดำใต้ตา และรอยสิว ตัวนี้ฟังก์ชั่นเริ่ดดด 3 in 1 เลยยย!!! มีคอนซีลเลอร์เนื้อครีมสีอ่อน สำหรับใต้ดวงตา และ สีเข้มขึ้นมาสำหรับปกปิดสิวค่ะ เพราะถ้าใช้สีอ่อนมาปิดสิว ยิ่งเห็นชัดไปอีกกกก ไม่ได้ๆ อันนี้ต้องมี ด้วยพื้นที่ที่จำกัดเลยต้อง พกอันเดียวนี่ละส่วน ฟังก์ชั่นสุดท้ายเป็นแป้งเนื้อ Translucent สีขาวใส พร้อมพั๊ฟอันเล็ก ช่วยให้คอนซีลเลอร์ติดทนขึ้น หาซื้อได้ที่บู๊ทส์เลย ราคาดี ใช้มานานแล้ว ใช้จนตลับแตกยังไม่หมดดดด


          คิ้ว คิ้ว คิ้ว งานสำคัญ ตัวนี้ชอบมากตอนนี้ L'oreal Paris Super Liner Brow Designer Pro เบอร์ 1 จัดไป 3 in 1 ทั้งดินสอเขียนคิ้ว สีแชโดวสำหรับคิ้วที่มีเนื้อสีชัดมาก เขียนง่ายและดูเป็นธรรมชาติ และสุดท้ายแปรงปัดคิ้วที่ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น  เพราะ เวลาเขียนคิ้วช่วงหัวคิ้วถ้าเข้มเกินไปจะทำให้หน้าดุ เกินนนนนนน ,,,,, ราคา 450 บาท อันนี้หาซื้อง๊ายง่าย มีทุกที่จริงๆ


          ฮ่าๆๆ ไม่มียี่ห้อให้เห็นแล้วถ่ายทำไม NYX Eyeshadow Primer ตัวเดิมที่ใช้ประจำ ใช้มานานมากแล้ว ใช้จนควรเปลี่ยนกระปุกใหม่แล้ว แต่ติดใจเลยไม่ได้เปลี่ยนซะที บวกกับไม่มีเวลาไปหาใหม่เลยใช้ตัวนี้ไปก่อนน้า เพราะ ทาแล้วอายแชโดวติดทนมาก ใช้ อายแชโดวอะไรก็ได้ :)


          ลงรองพื้นสำหรับอายแชโดวแล้ววว ก็มาแต่งตากันต่อเถิด อุ๋มใช้ Palette ของ BSC ที่มีสีครบมากกก แต่งได้ทุกอารมณ์ ทุกงาน คือพกไปบินนนอันเดียวนี่ละ มีโทนชมพู ส้ม น้ำตาล ส่วนสีเข้มมีเขียว น้ำเงิน เทา แดง และดำ สโม๊กกี้สีอะไรก็ว่าไป แต่ลุควันนี้ขอไม่สโม๊กกี้น้าาา เดี๋ยวจะไม่เข้าแนววว Undone มินิมอลสไตล์


          จริงๆ แล้วใช้อายแชโดวยี่ห้ออะไรก็ได้ แค่สีประมาณนี้ก็พอ :) อุ๋มเลือกใช้สีน้ำตาลอ่อนประกายละเอียด ชิมเมอร์วิบวับ เป็นสีเบส ทาทั่วทั้งเปลือกตาเลย เพราะสีนี้ทำให้ตาดูสว่าง สามารถใช้สีเดียวเลยก็ได้ในวันที่ขี้เกียจแต่งหน้า (ปกติอุ๋มทาแค่นี้ละ ฮ่าๆๆ) 


          ลุคนี้อุ๋มเลือกโทนสีส้มเป็นสีกลางค่ะ เพราะความชอบส่วนตัวเลย สีส้มดูสดใส เหมาะกับลุคง่ายๆ ใช้แปรงอันเดิมก็ได้ เพราะไปบินไม่ได้พกแปรงหลายอัน สีส้มนี้ ทาตั้งแต่กลางเปลือกตาด้านบนไปจนถึงหางตา และ ทาช่วงใต้ตาตามขอบตามาจนถึงกลางดวงตาเช่นกันค่ะ :) 


          และ เพื่อเพิ่มมิติให้ใบหน้ายิ่งขึ้น ป้ายยยสีเดิม หรือสีวิ๊งๆ ที่มี ถ้าผิวขาวกว่าอุ๋มใช้น้ำตาลอ่อนกว่านี้ได้นะ ทาไปช่วงท้องคิ้ว สันจมูก ดูสิ๊ จมูกมาาาเลย งานจมูกแหลมต้องมี


          สีสุดท้าย Bobbi Brown Eyeshadow สี Camel สีน้ำตาลคาราเมล เนื้อแมท สีครอบจักรวาลของอุ๋ม คือเป็นได้ตั้งแต่ Eyeshadow ยัน Shading แต่งตา เขียนคิ้ว ไล้ดั้ง ครบเลยใน 1 เดียว คือเอามา Shading หน้าได้ด้วย แต่ต้องระวังเรื่องสีนะคะ เพราะ อุ๋มผิวสองสี ถ้าใครขาวๆ เจอสีนี้ไปหน้าอาจจะดำได้ เลือกเชดดีดีน้า 

          ลุคนี้อุ๋มเลือกใช้สี Camel นี้สำหรับบริเวณหางตาค่ะ ทามีแปรง Blending ใช้ Blend สีนี้เบาๆ รับรองกระบอกตาเกิด ไม่ต้องลงเยอะน้า เดี๋ยวดูไม่ธรรมชาติ ส่วนช่วงดั้ง ขอไม่ธรรมชาติละกัน พอไม่มีแล้วไม่เกิดจีจี Shade ซะหน่อยย


          แต่งตาเสร็จแล้ว คือ รายละเอียดน้อยของแท้ แต่สวยได้นา แต่ถ้าอยากให้ลุคนี้ชัดขึ้นก็แค่หยิบ Pencil Liner สีดำ หรือสีน้ำตาลเข้ม เขียนช่วงกลางตาถึงหางตาได้นะคะ จะทำให้ตาดูมีมิติขึ้นมาเลยแหละ ส่วนอุ๋ม ไม่เขียนน้า เพราะอยากจะดูน้อยๆ เบาๆ บ้างงงง 

          อะ ดัดขนตากันน 


         มาเจอสิ่งที่อุ๋มขาดไม่ได้กันนนน Maybelline Hyper Curl Volume Express Waterproof ที่ชอบที่สุดในโลกตอนนี้ ไม่ต้องหาซื้อที่ไหนเลยนะ ที่ไทยมีค่าา !!! อุ๋มซื้อทีละ 2 อันเลย ตุนไว้ หมดไม่ได้ ขาดไม่ได้นะ อยู่ไม่ได้เลย ปัดกันเถอะ ....


        ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่นานที่สุดในการแต่งหน้าอุ๋มเลยนะ ห้ามเร่งนะ คือ ชอบปัดมาสคาร่ามากๆๆๆ ปัดแล้วเห็นถึงความแตกต่างมาก เวลาล้างไม่ต้องถามนะ นานเหมือนนนกัน แต่ว่ายอมค่ะ 

        วิธีการปัดของอุ๋มคือ ปัดบนซ้าย ปัดบนขวา ปัดล่างซ้าย ปัดล่างขวา รอแห้ง เริ่มใหม่ ทำแบบนี้ประมาณ 2-3 โค้ทเลย จัดไป คือ ขนตาปลอมไม่ต้องงงง จากไม่มีขนตาก็มีได้ เชื่ออุ๋มม


เห๊ยย แต่งมาตั้งนานยังไม่เสร็จซะที แต่ใกล้แล้วนาา ใกล้ความจริงแล้ว


          ย้ายมาที่แก้ม ตาส้มแล้ว ก็ฟาดแก้มส้มด้วย เผื่อลุคบางเบา ใช้ Tint ก็พอ Etude House Dear Darling Tint สีส้มมม ดอทๆๆ เข้าไปที่แก้ม 


         จริงๆ แล้วที่แก้ม ปาก ตา ปลายจมูก ได้หมดเลย หน้าออกมาจะดู ฉ่ำๆ ดูตากแดดนิดๆ ส้มๆ คือ ชอบสีนี้ แต่ทาไปทำงานไม่ได้ เพราะทาเล็บสีส้มแล้วไม่ขึ้นจริงๆ เลยใช้แต่งลุควันธรรมดาแล้วกัน 


        หลังจากลงริมฝีปากด้วย Tint แล้ว ริมฝีปากด้านนอก อุ๋มใช้ MAC สี Cherish สีโปรด ซึ่งเป็นสีนู้ดอมส้ม ทาแล้วหน้าไม่ดำ แตะๆๆ ช่วงริมฝีปาก ให้ขอบปากสีอ่อนลง เบราๆ


          อีกไอเท็มหลักที่ติดกระเป๋าตลอด คือ KATE 3D Eye Create ซึ่งเป็นอายแชโดวเนื้อฝุ่นแบบ Stick มีสองด้านคือ ด้าน High Light กับ ด้าน Deep Shadow โดยปกติอุ๋มใช้ด้าน high light ตามนี้


          ตามรูปเลยค่าาา คือเป็นสีที่สวยยยนะ แต่ความแน่นสู้อายแชโดวของ BSC ด้านบนไม่ได้ แต่ง่ายต่อการพกพากว่ามากก เลยพก พกตลอดเลย ตอนไหนตาดูง่วงๆ ฟาดหัวตาเข้าไป คือดูโอเคขึ้นทันตาเห็น ส่วนด้าน deep shadow สีประมาณแป้งสีเข้ม เนื้อไม่วิ๊งใช้ฟาดได้บางโอกาส เช่น กลบสิว กลบตีน(กา) เล็กๆ น้อยๆ 

          แต่ทุกแท่งที่ผ่านมา ด้าน high light หมดก่อนซำเหมอออ


          อ่ะ ขั้นตอนสุดท้ายยยย อาจจะงงกันว่าทำไมอุ๋มไม่ลงแป้ง ลงซี๊ ลงตอนหลังนี่ละ อันนี้เป็นเทคนิคอุ๋มเองนะคะ เอาแปรงฟูๆ นุ่มๆ ปัดฝุ่นที่เกินๆ หรือเศษ อายแชโดวที่ร่วงติดอยู่ตามผิวหน้าออกให้หมด และ เอาแปรงแตะแป้ง เบาๆ แล้วปัดทับอีกหน ให้หน้าไม่มันแค่นั้นพอ ไม่อยากได้พื้นผิวของหน้าที่ดูหนา ลองวิธีนี้ก็ได้น้า คือ พยายามไม่ใช้พัฟ เวลาไม่ทำงาน เพราะว่า กดแป้งด้วยพัฟ ติดทนจริง แต่หน้าดูหนาเกินไป


          อุ่ยย่ะ เสร็จแล้ววว ในที่สุดก็เสร็จแล้ว หวังว่าคงไม่ได้ลืมขั้นตอนไหนไป ลุคนี้ก็ง่ายจริงๆ แค่ How To ย๊าวยาว เพราะ เม้าท์เยอะ ฮ่าๆๆ ลองแต่งดูนะคะ ไม่ยากเลยจริงๆ ขั้นตอนน้อยนิด แบบมินิมอลสไตล์ แต่งไปไหนก็ได้ เพราะว่าง่าย และไม่ค่อยเลอะ อุ๋มไปเดินเล่นในเมลเบิร์น คือร้อนนนนะ เหงื่อออก แต่หน้ายังโออยู่ เพราะไม่มีส่วนไหนเยิ้มได้และ มาเบาๆ แต่ดูมีอะไร


ว่าแล้วก็แว้บบบ ไปนั่งคาเฟ่เล็กน้อย :) ไหนๆๆ ใครลองแต่งแล้วอย่าลืมมาอวดบ้างน้าา


ไปละค้า ขอบินกลับก่อนนนน แล้วเจอกันที่ไทยกั๊บบบ ลุคหน้ารอแพร้บบบ จะมาอัพ ให้ได้ทุก 2 สัปดาห์น้า ส่วนบล๊อกหน้า เจอกับ "มกรา Favorite" 

อย่าลืมมาติดตามกันนในเพจของอุ๋มนะคะ คลิกที่รูปเลยยยน้า :) 

No comments: