2.22.2015

[REVIEW] ต่อขนตา ที่ TINGLE แบบ Sweetheart และ แบบ Superstar

สวัสดีค่า PannitaP Blog ในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากบล๊อกที่แล้วที่อุ๋มพูดถึงการทำ Micropigmentation รวมถึง การต่อขนตา กับ TINGLE ค้างไว้ค่ะ บล๊อกนี้ อุ๋มจะมา พูดถึงเรื่องต่อขนตา อย่างเดียวเลย :) เพราะว่ามีรายละเอียดหลายอย่างที่อยากพูดถึง รวมถึงการดูแลขนตาด้วยค่า


 การต่อขนตาที่ TINGLE เป็นการต่อแบบเส้นต่อเส้นค่ะ เส้นขนตาเป็นไหมคุณภาพสูงนำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งมีน้ำหนักเบามากๆ แบบของการต่อนั้นก็มีหลายแบบคะ พี่ที่ร้านจะดูจากรูปดวงตาของเรา และสภาพขนตาที่มีอยู่แล้วเป็นพื้นฐานด้วยค่ะ ว่าสามารถต่อได้มากขนาดไหน กี่เส้น รวมทั้งควรจะทำแบบไหน ก็จะมีตั้งแต่ ตาหวาน ตาเซ็กซี่ แบบธรรมชาติ แบบหนาปัง ยาวหรือสั้น บางหรือหนา อันนี้คุยกับพี่ๆ ผู้เชี่ยวชาญได้เลยค่ะ


แบบที่อุ๋มเลือกต่อในครั้งแรกที่ไปต่อ คือ แบบ "Sweetheart" คือ แบบตาหวาน ขนตาช่วงกึ่งกลางดวงตาจะยาวกว่าด้านข้าง ทำให้ตาหวานค่ะ ต่อ ข้างละ 120 เส้น ค่ะ

จำนวนเส้นของขนตา นั้นก็ขึ้นอยู่กับขนตาของเราด้วยค่ะ สมมติว่าอุ๋มมีขนตาข้างละ 120 เส้น จะอยากต่อหนา 150 เส้น แบบนั้นก็จะทำไม่ได้ค่ะ เพราะว่า วิธีการต่อนั้นคือการต่อกับขนตาจริงเรา ซึ่งจะทำให้ดูเป็นธรรมชาติ เพราะฉะนั้น ก็ไม่ควรจะต่อมากกว่าจำนวนเส้นขนตาที่เรามีอยู่ค่ะ ต่อมากเกินไป ขนตาจริงต้องรับน้ำหนักขนตาที่ต่อก็จะหนัก ไม่งอน ไม่เด้งสวยนะคะ

 ความยาวของขนตา ซึ่งเป็นไหมญี่ปุ่นนั้น อยู่ที่เบอร์ 9-13 ค่ะ (ยาวสุดเบอร์ 15) ซึ่งจะเน้นความยาวช่วงกึ่งกลางดวงตา ทำให้ตาดูกลมโต และหวานแหวว เป็นที่สุด ผลออกมาก็สวยงามตามท้องเรื่องค่ะ งามกว่าตอนไม่มีขนตาเป็นอย่างยิ่ง


 จะสังเกตได้ว่าขนตาด้านขวาของอุ๋มนั้นสั้น และยังขึ้นไม่สม่ำเสมอ นั่นเป็นผลมาจากการต่อขนตาครั้งก่อน อุ๋มเอาออกไม่ถูกวิธีค่ะ คือไม่ได้ไปถอดที่ร้านด้วยเครื่องมือ และน้ำยาที่เหมาะสม การขยี้ตาแรง หรือดึงขนตาที่ต่อออกนั้น ทำให้ขนตาจริงล่วงไปด้วย ต้องระวังเป็นอย่างยิ่งค่ะ

ดังนั้น เมื่อต้องการจะ ถอดขนตาที่ต่อออก อุ๋มแนะนำว่าควรกลับไปให้ทางร้านถอดออกให้ค่ะ เพราะ จะได้ไม่เจ็บ ไม่ขนตาหายเป็นช่วงๆ รวมทั้งปลอดภัยต่อขนตาจริงมากที่สุดค่ะ


รูป ก่อนและหลัง ของการต่อขนตา รวมทั้งการทำ Micropigmentation ครั้งแรกกับทาง TINGLE ค่ะ
 
โดย ส่วนตัวแล้ว อุ๋มชอบการต่อขนตาค่ะ และคิดว่าจะต่ออีก แต่ว่าการต่อขนตาแต่ละครั้ง ควรให้ขนตาของเราได้พัก และ ต้องดูแลบำรุงขนตาอยู่เสมอ นะคะ สมมติว่าถ้าเดือนนี้อุ๋มต่อขนตา เดือนหน้าพอถอดขนตาออกแล้วอุ๋มก็จะปล่อยให้ตาได้พักสักเดือนนึงค่ะ ต่อเท่าไหร่พักเท่านั้น แล้วค่อยว่ากันใหม่ ไม่ใช่ต่อตลอด เพราะขนตาเราเองก็ต้องพักเช่นกันค่ะ การต่อขนตาก็เหมือนให้ตาเราอุ๋มขนตาอีกเส้นนึงไว้ ต้องให้พักกันบ้างน้า นี่อุ๋มเว้นมาแล้ว 2 เดือน เลยเริ่มต่อใหม่ค่ะ มาดูการต่อครั้งที่ 2 ของอุ๋มบ้างค่ะ ครั้งนี้เปลี่ยนแบบด้วย :)

 ความรู้สึกตอนต่อขนตาทั้ง 2 ครั้ง ก่อนจะเริ่มต่อขนตานั้น ที่ TINGLE จะมีการแปะ Under Eye Mask เพื่อบำรุงช่วงใต้ตาให้ด้วยค่ะ แผ่นมาร์สเย็นสบายมากก เริ่มแปะ ก็เริ่มหลับแล้ว ฮ่าๆๆ เนื่องจากระหว่างต่อขนตานั้นเราจะไม่สามารถลืมตาได้ รวมทั้งไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะ พี่ที่ทำทั้ง 2 ครั้งมือเบามากๆ ค่ะ ความรู้สึกจั๊กจี๋นิดหน่อย เหมือนมีคนจับขนตาเราเล่นแค่นั้นเองค่ะ ระหว่างต่อมีแสบตาบ้าง เพราะกาวค่ะ แต่พอแสบก็บอกพี่ที่ต่อ แป๊บเดียวก็หายค่ะ

ระยะเวลาในการต่อขนตา ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับแบบ และจำนวนเส้นเลยค่ะ 

ดังนั้น อุ๋มแอบแนะนำว่า ก่อนต่อควรเตรียมตัวให้พร้อม ทานน้ำ ทานข้าว (ห้ามอิ่มเกินนน เดี๋ยวเป็นกรดไหลย้อน) เข้าห้องน้ำ และเตรียมตัวห่มผ้าหลับพร้อมตื่นมาเจอตาสวยๆ ได้เลยค่ะ


ความรู้สึกหลังต่อเสร็จ อุ๋มชอบทุกครั้งหลังต่อขนตาเสร็จค่ะ เพราะว่า ตาจะสวยและดูตาเท่ากันมากๆ อันนี้ไม่แน่ใจว่าคนอื่นเป็นไหม แต่ตาอุ๋มเวลาตื่นนอนมักจะไม่เท่ากัน พอต่อขนตาปุ๊บ จะดูไม่ค่อยออกว่าตาไม่เท่ากัน แห่ะๆ เลยเลิฟ มีสาวๆ ถามว่ารู้สึกเจ็บช่วงหนังตาไหม ต่อที่ TINGLE มา 2 ครั้ง อุ๋มตอบได้เลยว่า ความรู้สึกแทบไม่ต่างกับตอนไม่ต่อเลยค่ะ ไม่หนัก ไม่เจ็บตา ไม่ระคายเคือง หรือคันตา แม้แต่ตอนเหงื่อออกหลังออกกำลัง ล้างหน้า หรืออาบน้ำ ก็ไม่รู้สึกค่ะ ตอนต่อครั้งแรกอาจมีงงๆ เผลอขยี้ตาแรงบ้าง แต่ระยะนึงก็จะชินค่ะ 


ครั้งนี้เลือกต่อแบบ "Superstar" คือ ต่อแบบเน้นยาวช่วงหางตาค่ะ ดวงตาจะออกลุคเซ็กซี่หน่อยค่ะ ต่อ ข้างละ 120 เส้น เหมือนเดิมค่า

ขนตาอยู่ได้นานเท่าไร จากประสบการณ์ส่วนตัวขนตาที่ต่อของอุ๋มจากครั้งแรกที่ต่อนะคะ ขนตาจะสวยอยู่ถึงสัปดาห์ที่ 2-3 ค่ะ หลังจากกลางสัปดาห์ที่ 3 ไป จะมีร่วงบ้าง ขนตาแหวกบ้าง เพราะว่าบางทีไปบินเลี่ยงการใส่ที่ปิดตาไม่ได้ ก็ไปทำร้ายขนตาที่ต่อค่ะ และประมาณ 1 เดือนขนตาก็จะเริ่มร่วงไปจนเกือบหมดค่ะ อันนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของแต่ละบุคคุลด้วยค่ะ

การดูแลรักษา นี่ละคะเรื่องยากของอุ๋ม เนื่องจากอุ๋มต้องแต่งหน้าอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเวลาล้างเครื่องสำอางออกจากดวงตาต้องระวังเป็นพิเศษๆๆๆ พิเศษมากๆ วิธีการคือ ล้างให้โดนขนตาน้อยที่สุด และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมค่ะ เพราะจะทำให้กาวต่อขนตาเสื่อมสภาพ และทำให้ขนตาที่ต่อร่วงค่ะ และพอเช็ดด้วยสำลีนั้น สำลีก็ชอบไปติดตรงขนตาที่ต่อ หรือรอยต่อระหว่างขนตาอีก ดังนั้นวิธีการของอุ๋มคือใช้ คอทตอนบัด กับ remover สูตรน้ำที่อ่อนโยนค่ะ ยี่ห้อที่อุ๋มใช้คือ BYPHASSE เลยค่ะ เพราะว่าอ่อนโยนกับผิวหน้าและดวงตามากๆ


ราคาของการต่อขนตาที่ TINGLE นั้นจะนับเป็นเส้น เส้นละ  10 บาท ค่ะ อุ๋มต่อข้างละ 120 เส้น 2 ข้าง 240 เส้น ก็ รวมเป็น 2,400 บาท ค่ะ
 
ราคาค่าถอดขนตาออก ถอดออกเฉยๆ ไม่ได้ต่อใหม่จะคิดราคา 300 บาทต่อครั้งค่ะ แต่ถ้าจะต่อใหม่ทันที ไม่มีค่าบริการค่ะ

 

อุ๋มจะขอพูดถึง ข้อดี และ ข้อเสีย ของการต่อขนตา อันนี้เป็นความคิดส่วนตัว ประกอบการตัดสินใจนะคะ เพราะเพื่อนๆ แอร์ของอุ๋มก็ถามกันเยอะว่าควรหรือไม่ควรต่ออย่างไร เอาเป็นว่าอันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วยค่ะ

ข้อดีของการต่อขนตา 

- ชีวิตง่ายขึ้นเมื่อไม่ต้องแต่งตามากก็มีดวงตาสวยๆ ออกจากบ้านได้ไวค่ะ
- ลืมการปัดมาสคาร่า หรือ ติดขนตาปลอม ไปได้เลย 
- ลดปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา เพราะ พอไม่ปัดมาสคาร่า ก็ลดการถูๆๆ รอบดวงตาเวลาล้างค่ะ
    - เทียบกับการติดขนตาปลอมแล้ว ใช้เวลาน้อยกว่า รวมทั้งเบากว่ามากมายค่ะ

ข้อเสียของการต่อขนตา

- ช่วงที่ขนตาเริ่มร่วง จะมีช่วงที่ไม่สวย ช่วงแหว่ง ต้องไปเติมค่ะ
- ถ้าเป็นคนชอบขยี้ตา จะดึงทั้งขนตาที่ต่อ และขนตาจริงของเราออกไปด้วยค่ะ
- ในวันที่จำเป็นต้องแต่งหน้าเยอะๆ จริงๆ  ตอนล้างเครื่องสำอางที่ตา จะต้องค่อยๆ ค่อยมากๆ เวลาเช็ดทำความสะอาด ไม่งั้นอาจทำให้ขนตาที่ต่อมาหลุดได้ง่ายค่ะ


 
อุ๋มขอจบการรีวิวไว้เพียงเท่านี้ค่ะ หวังว่าการรีวิวครั้งนี้จะช่วยประกอบการตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อยนะคะ :) แล้วเจอกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ

2.19.2015

[Review] ลิปสติก Bisous Bisous Château de Glamour และ ยาทาเล็บ China Glaze

PannitaP Blog วันนี้ขอเสนออออออการ SWATCHES  ลิปสติกจาก Bisous Bisous คอลเลคชั่น Château de Glamour Lipstick และ การสียาทาเล็บเข้าคู่กันแบบ เป๊ะ!! จาก China Glaze ค่าาา จริงๆ ต้องบอกว่าลิปสติกจาก บีซู บีซู นี้มาคอลเลคชั่นนี้เป็นคอลเลคชั่นก่อนหน้านี้นะ แต่ว่าอุ๋มพึ่งมีโอกาสเอามาทาไปบินช่วงนี้แล้วปลืมปริ่มค่า ขอ Swatch โชว์ซะหน่อยแล้วกันนน



ลิปสติกรุ่นนี้ เป็น เนื้อ Cream Matte ทั้งหมดค่ะ ซึ่งเป็นเนื้อเรียบละเอียด นุ่มเนียน ทาง่าย สีสวย โดดเด่น กลบสีปากได้เนียนสนิท ติดทนนานตลอดวัน บวกกับคุณค่าการบำรุงของสารสกัดจากน้ำมันผลไม้และมะพร้าว ที่ช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นจากมลภาวะ ทำให้เรียวปากเนียนนุ่มอีกด้วยนะคะ

ราคาแท่งละ 595 บาท ค่ะ


และยาทาเล็บยี่ห้อที่อุ๋มใช้ และเลือกมารีวิว คือ ยี่ห้อ China Glaze ค่ะ ตอนบินแรกๆ ก็ยังชอบไปทำเล็บๆ หลังๆ พอต่อเยอะๆๆ เข้า เล็บเริ่มบาง และหน้าเล็บถลอก เลยเริ่มทาเองค่ะ สีของ China Glaze เท่าที่ใช้มาคือโอเคเลยค่ะ สีเงาอยู่หลายวัน สีไม่เพี๊ยน ทาแล้วเล็บไม่เหลืองอ๋อย แต่ทาตลอดๆๆ ก็ไม่ไหวต้องพัก และล้างออกบ้างนะคะ


วันนี้อุ๋มเลยมารีวิว สีที่อุ๋มชอบจับคู่กันทา เวลาไปทำงานนะคะ จริงๆ แล้วแมชได้หลายแบบ แต่ความชอบส่วนตัว ชอบทาสีคล้ายๆ กันค่า

ขอแบ่งเป็นโทนๆ ตามนี้เลยฮับบ :)

โทนสีแดง

 

 ขอเปิดด้วยสีที่ชอบที่สุดเลยแล้วกัน นั่น คือ สี แด๊งแดง ลิป Bisous Bisous สี GRD05 


 เป็นสีที่ทาแล้วขึ้นมากกก กรีดร้องง แดงสะเดิด เปิ๊ดสะก๊าดด คือมันใช่อ่ะ แต่งตาเต็มๆ ใส่ชุดยูนิฟอร์มเอย ชุดไทยเอยแล้วพุ่งมากกกก เกิด เกิด เกิด และ ด้วยสีลิปเป็นแดงอมส้ม จะเล็บแดง ส้ม หรือนู้ด ก็ยังได้ค่ะ

 

เล็บสีแดง China Glaze สี Salsa คู่กับยาทาเล็บสีแดงเลยค่ะ สีแดงนี้คือคุณค่าที่คนชอบสีแดงคู่ควรนะคะ แดงแท้ๆ ไม่มีอย่างอื่นปะปนเลยค่ะ :)



สีส้ม China Glaze สี I Brake For Colour



ตามด้วยสีแดงอมชมพู Bisous Bisous สี GRD06 ค่ะ



สีเล็บที่อุ๋มชอบนำมาแมช :) 


 สีนู้ด China Glaze สี Dress Me Up. 
สีนี้คือสีที่ชอบที่สุดเป็นครั้งแรกที่ซื้อยาทาเล็บสีเดิมขวดที่ 2 ค่ะ


มาสู่ โทนชมพู



Bisous Bisous สี GPK 04 ชมพูที่แทบจะสะท้อนแสง




สีนี้ออกเป็นชมพูอมม่วงค่ะ



 Bisous Bisous สี GPK 03

 

เป็นสีชมพูนมที่หว๊านหวาน ชมพูมากมาย


 สีชมพูพีชๆ Bisous Bisous สี GPE 01

ขอจับคู่ชมพูๆๆ กับยาทาเล็บตามนี้เลยค่ะ อยู่ที่สีผิวเลยว่าชอบชมพูแบบไหน :)




สีชมพู China Glaze สี Pinking Out the Window


สีนู้ดอมชมพู China Glaze สี Pack Lightly

และ โทนสีส้ม

 

ลิปสติก Bisous Bisous สี GOR02 ค่ะ

ยาทาเล็บโทนส้มของอุ๋ม คือ

 

 สีส้มนู้ดๆ China Glaze สี More To Explore


สีส้มมากกก China Glaze สี I Brake For Colour

 หมดแล้วค่าาา :) อุ๋มหวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย และหวังว่าสาวๆ จะชอบนะคะ ไปแล้วน้า บ๊ายบายยย

ป.ล.
- ยาทาเล็บ China Glaze สามารถซื้อได้ในเว็บช๊อปปิ้งออนไลน์นะคะ อุ๋มซื้อจาก www.facebook.com/Tarntanabeauty ค่ะ
- เครื่องสำอาง Bisous Bisous ซื้อได้ที่เคาท์เตอร์ตามห้างชั้นนำเลยค่า สบายยย




2.17.2015

[SHOPPING] ช๊อป LUXOLA ในงบ 1,500 บาทกับอุ๋ม

สวัสดีค่ะ สาวๆ ฮิฮิ อุ๋มมาอีกแล้ว วันนี้มาในเรื่อง ช๊อป ช๊อป ค่ะ อุ๋มว่าสาวๆ หลายคนรวมทั้งหนุ่มๆ ด้วย น่าจะเคยช๊อปปิ้งออนไลน์กันค่ะ ในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายเว็บให้เลือกสรรในการช๊อป มากๆๆ เรียกได้ว่านอนอยู่บ้านเฉยๆ กระดิกนิ้ว คลิก คลิก ของก็มาส่งหน้าบ้านแล้ว ง่ายมากเลยจริงๆ ค่ะ ครั้งนี้อุ๋มจึงลองช๊อปดูบ้างค่ะ

Hi girls! PannitaP is here to update on some online shopping stuffs! I'm pretty sure that all of you has once experienced this kind of shopping experience; convenient, fun and exciting. I love doing online shopping just because I love unwrapping the box that is sent to the front of my doorstep!! (Don't you like the feeling too?. At present, there are a wide variety of online shopping website. You can pretty much lying around the house, wagging your finger and clicking on the page and those stuffs will be shortly waiting for you at home.

ในบล๊อกนี้อุ๋มจะเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ ช๊อป ช๊อป กับ เว็บไซต์ที่ชื่อว่า

and the website I'm going to talk about today is called ...



LUXOLA.co.th หรือ ลักซ์โซลา เป็นศูนย์รวม ของผลิตภัณฑ์ที่สาวๆ ต้องชอบเลยก็ว่าได้นะคะ ตั้งแต่ เสื้อผ้า หน้า ผม เครื่องประดับ เครื่องสำอาง ชุดออกกำลัง ฯลฯ อีกมากมายก่ายกอง ตานี่ลายเลย

There are all kinds of stuffs on LUXOLA, that is the embodiment of the girls. It's not like I set out from clothes, hair, cosmetics, etc. Another bountiful eye pattern here yet.

แต่เป้าหมายของการช๊อปครั้งนี้คือ

"1,500 บาท และ เป็นของที่ได้ใช้"

นั่นคือ Goal ของการช๊อปค่ะ สาวๆ 

เอาจริงๆ ถ้าไม่ตั้งเป้า มีหมื่นหมดหมื่น มีแสนหมดแสน เหมือนตอนไปบินชัวร์ๆ ค่ะ กรี้ดด ไม่ค่ะ เราจะไม่ตะบะแตก กิเลสต้องไม่มา ว่าแล้วก็เริ่มช๊อปกันเลยค่ะ ครั้งนี้อุ๋มช๊อปปิ้งออนไลน์ ผ่านมือถือเลยค่ะ ง่ายดายจริงๆ

ด้วยความที่ Luxola มีหลายอย่างให้เลือกสรรมากๆ ตอนช๊อปนั้น อยากได้
- ไดรเป่าผมแบบพกพา
- แปรงแบบพกพา
- Bronzer และ Mascara กำลังจะหมด
- Cleanser ต้องใช้ตลอด

 Order ของอุ๋มจึงออกมาตามนี้ค่ะ

 

โอ้โห ตอนช๊อปเสร็จนี่อึ้งกับการคำนวณของตัวเอง ผู้หญิงเก่งเลขทุกคนค่ะ โดยเฉพาะตอนช๊อป!!

1,506 บาท เกินเป้าไปไม่เยอะ พูดเลยว่าภูมิใจค่ะ

หลังจากกดสั่งของเป็นที่เรียบร้อยก็จะเข้าสู่การเลือก วิธี และวันในการจัดส่ง ซึ่งสามารถเลือก Option ในการไปรับของเองกับที่ Luxola เผื่ออยู่ใกล้ๆ (ตึก BB แถวอโศก) หรือ เลือกให้ส่งมาถึงหน้าประตูบ้าน ซึ่งอุ๋มเลือกแบบส่งหน้าบ้านค่ะ วันเร็วที่สุดหลังจากการสั่ง ซึ่งถ้าสั่งก่อน 15.00 น. สามารถมาส่งวันรุ่งขึ้นได้เลย แต่อุ๋มสั่งตอนประมาณ 18.00 ค่ะ เพราะฉะนั้น รออีก 2 วันนะ :)

และวิธีการจ่ายเงิน อุ๋มเลือก ชำระปลายทาง ได้เลยย สะดวกฝุดๆๆๆ

เวลาผ่านไปแค่อึดใจเดียวจริงๆ Messenger จาก Luxola ก็มา ติ๊งต่อง กิ๊งก่อง ถึงหน้าประตูเลยค่ะ


ของถึงมือ เซ็นต์รับและจ่ายตังค์ ง่ายจังงงงงง ส่วนค่าส่ง ฟรี เมื่อสั่งเกิน 299 บาทเท่านั้นค่ะ!! 
คุ้ม ง่าย ไม่ต้องออกจากบ้าน นี่นอนกดมือถือสั่งปุ๊บปั๊บๆ นอนรอของอยู่บ้านเลย เห้ย ชีวิตดี เพราะเอาจริงๆ พอไม่บินนะ อุ๋มนี่ ราก งอกก เลื้อยไปๆ มาๆ อยู่ในบ้านเท่านั้นนะ

 
 
คว้าของออกมาจากถุงที่บุอย่างดี ทุกอย่างอยู่ในสภาพ สวยงาม สมบูรณ์ ค่ะ

 

Hair Dryer จาก Le'sasha ตัวเล็กจิ๋วแจ๋ว เพราะ อยากได้แบบพกไปไหนมาไหนได้ง่ายๆ เพราะ เป็นคน "รักการเดินทาง" เจ้าค่า ฮ่าๆๆๆ จริงๆ ตามโรงแรมก็มีนะ แต่ติดไว้ไม่เสียหายค่ะ 1,000 วัตต์ ไดรแห้งได้เหมือนกัน แถมประหยัดไฟ ในราคา 390 บาทเท่านั้น

 

เป้าหมายที่ 2 แปรงแบบพกพา ขอมีฝาปิด เลยจัด Real Techniques มาเลยค้าบบบ สีชมพูด้วย มีฝาปิดด้วย เป็นคาบูกิด้วย เนื้อแปรงแน่นลืมม คือ ดี๊ดี มีแปรงไปบิน แบบไม่เน่าแล้ว!! อันนี้ 530 บาทค่ะ ไม่ต้องไปเดินหาซื้อค่ะ เริ่ดๆๆ

 

2 ชิ้น จาก Maybelline ชิ้นโปรดดดดรีวิวไปแล้ว 10 รอบ ได้แก่
- Clean Express Total Clean! ราคา 229 บาท
- Volume Express Hypercurl Cat Eye - Black ราคา 249 บาท

 

และชิ้นสุดท้าย Cheek Stain จาก City Color สี Bronze ค่า ลดราคาเหลือ 108 บาท ค่า
สีตามที่เห็นเลย วิ๊งๆๆ เอามาแทน Bronzer เนื้อครีมที่บ้านได้เลย จะหมดพอดี แต่ราคาโดนกว่า 10 เท่าอ่ะ บอกเบยยย

สรุปปป

พึงพอใจกับการช๊อปครั้งนี้เต็ม 10 ค่า :) สะดวก ปลอดภัย ส่งถึงมือ และจ่ายตังค์เมื่อได้รับของ ไม่ถูกใจยินดีคืนเงิน อุ๋มชอบความง่าย นี่ช๊อปตอนไปบิน หรือตอนอยู่ต่างประเทศก็ยังได้ เลือกวันรับของเอาไว้ กลับมาปุ๊บ ของส่งหน้าบ้านปั๊บ และของที่ได้ก็เหมือนที่ตาเห็นเด๊ะ!! 

เดี๋ยวคราวหน้าอุ๋มจะลองซื้อเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับบ้าง แล้วจะมาอัพเดทนะคะ นี่ได้ส่วนลดในการสั่งซื้อมาด้วยนะ ครั้งหน้า ซื้อ 1,500 ลดได้ 300 และ ช๊อป 2,500 บาท ลดได้ 500 บาท เล้ยย 

อรั๊ยย เห็นอะไรลดๆ ละอดไม่ได้ทุกที

สุดท้ายก็ฝาก Luxola.co.th ไว้ด้วยนะคะ หวังว่าคงชอบกันน้า ช๊อปอะไรอย่าลืมเล่าสู่กันฟังนะคะ เริ่มช๊อปได้ เลย คลิก ตรงนี้นะคะ http://goo.gl/MjWvlT

อย่าลืมเข้ามากดไลค์เพจของอุ๋มที่รูปด้านล่างน้า แล้วเจอกันใหม่ บล๊อกหน้าค่ะ

www.facebook.com/pannitapblog


2.14.2015

[REVIEW] การทำ Micropigmentation หรือการ สักคิ้ว 3 มิติ ของอุ๋มที่ TINGLE

สวัสดีวันวาเลนไทน์ค่า ได้เวลาอัพเดทซะที อุ๋มเชื่อว่าสาวๆ คงจำได้ว่าอุ๋มเคยเล่าให้ฟังว่าอุ๋มักคิ้วมา คงจำกันได้เนอะ ฮิฮิ ครั้งนี้มาอัพเดทละค่าา สำหรับสาวๆ ที่รอคอย การมีคิ้วสวยๆ เป็นของตัวเอง บล๊อกครั้งนี้ อุ๋มจะ มาพูดถึงเรื่องการทำ Micropigmentation หรือการสักคิ้ว 3 มิติ ที่อุ๋มไปรับบริการจากทางร้าน TINGLE นั่นเอง 

ตอนแรกที่อุ๋มยังไม่อัพเดท เพราะ กะจะรอไปลงสีของคิ้วรอบที่ 2 ก่อน แต่ด้วยเวลาที่จำกัด บวกกับเวลาที่น้อยนิดเหลือเกิน จึงขอ โพสต์รีวิว ของรอบแรกก่อนแล้วกันน๊า เดี๋ยวเร็วๆ นี้อุ๋มจะไปทำรอบ 2 แล้วจะมาอัพเดทอีกหนค่ะ

ครั้งนี้ มาดูประสบการณ์รอบแรกกันก่อนเลยดีกว่า


เริ่มกันด้วยภาพแรกหลังสักเสร็จเลยค่ะ เข้มสะใจกันไปเลยทีเดียว :)
แต่อย่าตกใจไป ผ่านไป แว้ปป เดียวเท่านั้น คิ้วของสาวๆ ก็จะเข้าที่สวยสุดๆ ค่ะ



ขอเกริ่นนำซักนิดนึงก่อนนะคะว่าก่อน ที่อุ๋มจะสักคิ้ว หรือ ทำ Micropigmentation ครั้งนี้กับทาง TINGLE นั้น อุ๋มได้คิดทบทวนมาแล้วว่า 

การที่มีคิ้วที่พร้อม ช่วยอะไรได้บ้าง? 

เนื่องจากอุ๋มเป็นคนที่มีขนคิ้วเยอะมาก จนเพื่อนๆ ก็ถามว่าขนคิ้วเยอะขนาดนี้จะสักอีกทำไม ก็เพราะมันเยอะ และลกนี่ละคะ เลยดูแลยากก จริงๆ น๊าาา ถ้าคิ้วของอุ๋มเป็นระเบียบ และอยู่ในทรงที่สวยงามจะต้องช่วยให้มีใบหน้าที่สวยขึ้น และยังประหยัดเวลาในการแต่งหน้าแน่ๆ ที่สำคัญที่สุด คือ ช่วยให้มีความมั่นใจในทุกเวลา ทุกสถานการณ์ 

ยิ่งก่อนจะไปบิน บางวันตื่นสาย บางวันถูกเรียกแสตนบาย มีคิ้วพร้อมแล้ว อะไรๆ ก็ง่ายขึ้นค่ะ


สาเหตุที่เลือก TINGLE 

ต้องบอกเลยว่า รู้จัก TINGLE มานานแล้วค่ะ เห็นสาวๆ หลายคนไปทำก็ตามเก็บข้อมูลมาพักใหญ่และคิดไว้แล้วว่าถ้าจะทำ ก็ต้องมาทำกับที่นี่แหละค่ะ และพอได้ไปทำก็ไม่ผิดหวังค่ะ ตั้งแต่สถานที่ ที่จัดตกแต่งอย่างหรูหรา พี่ๆ พนักงานน่ารักทุกคน รวมทั้งคุณแอมเจ้าของร้านเองก็ดูแลอุ๋มเป็นอย่างดี ประทับใจมากๆ เลยค่ะ

อุ๋มได้ทำการศึกษามาว่าที่ TINGLE ใช้ระบบไมโครพิกเมนต์เทชั่นของ amiea มาเป็นตัวช่วย ในการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของคุณอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยแก้ไขคิ้วที่ไม่เท่ากัน และไม่สมส่วนบนใบหน้า โดย

ระบบชุดเข็มของ amiea นั้น
• ผ่านการฆ่าเชื้อ, วัสดุใช้ครั้งเดียวทิ้ง
• มีซีลได้รับการจดสิทธิบัตร (ซีลป้องกันการไหลย้อนกลับของของเหลวที่ปนเปื้อน)
• ชุดนำเข็มที่มั่นคงและแม่นยำสูง


ที่ TINGLE มีสีของคิ้วให้เลือก ตามสีผม ของสาวๆ ด้วยนะคะ ก่อนจะสักคิ้ว ก็ต้องเลือกสีที่เหมาะสมก่อน โดยทาง TINGLE จะมีพี่ๆ ที่เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา อย่างใจเย็นค่ะ :) เพราะ อุ๋มเองมาสักครั้งแรกในชีวิตเลย ก็ถามนู่นนี่นั่น เยอะไปหมด แห่ะๆๆ และครั้งนี้สีที่อุ๋มเลือกทำ คือ สี MOCHA ค่ะ 

** วิธีการเลือก คือ ควรเลือกสีที่เข้มกว่าที่ต้องการหน่อยนึงค่ะ เพราะว่าเมื่อสีเข้าที่แล้ว จะอ่อนลงกว่าที่เห็นนะคะ **

และก็มาถึงการสร้าง รูปทรงของคิ้ว ค่ะ การออกแบบทรงคิ้วที่ดี ถือว่าสำคัญมากๆๆๆๆ เพราะ มันจะอยู่บนหน้าของเราไปอีกนานอย่างน้อยก็ 1-3 ปีเลยนะคะ ก่อนการตัดสินใจสักทุกครั้ง ต้องศึกษางานให้ดี และต้องออกแบบให้ถูกใจ และเข้ากันกับโครงหน้าของเรานะคะ เอาให้อยู่บนหน้าแล้วมั่นใจมากๆ เข้าไว้นะคะ


 


เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเลยเพราะ พี่โอปอล และทาง TINGLE ดูแลเรื่องนี้เป็นอย่างดีเลยค่ะ อุ๋มอยากได้คิ้วทรงเดิมกับคิ้วของอุ๋ม แค่เน้นให้ชัดขึ้น และ ทำให้คิ้ว 2 ข้างเท่ากันค่ะ เนื่องจากคิ้วอุ๋มไม่เท่ากัน จากโครงสร้างของกระดูกคิ้ว การสักก็แก้ไขตรงนี้ได้ค่ะ ดีเลย รอบแรกก็วาดแล้วลบ ลบแล้ววาดอยู่หลายรอบเลยค่ะ กว่าจะถูกใจ ต้องขอบคุณพี่โอปอลด้วยนะคะ  

หลังจากวาดโครงคิ้วเสร็จ ก็จะทำการแวกซ์ขนส่วนเกินตรงช่วงท้องคิ้ว และ หัวคิ้วออก เพื่อให้พร้อมทำการสักค่ะ :)



ก่อนทำการสักนั้น อุ๋มก็จะโดนแปะยาชาอยู่ ประมาณ​ 45 นาทีค่ะ 

แต่วันนั้นอุ๋มว่าง เลยลองรับบริการ การต่อขนตาปลอมจากทาง TINGLE ด้วยเลย แต่ครั้งนี้การต่อขนตาไม่ใช่ครั้งแรกค่ะ แต่เป็นครั้งที่ประทับใจอีกครั้ง อุ๋มเลือก ต่อขนตาแบบ Sweet Heart ค่ะ คือแบบตาหวาน เพิ่มความหวาน ให้ใบหน้า ฮ่าๆๆ 

โดยครั้งนี้ต่อข้างละ 120 เส้น เพราะ ฐานคนตารับได้แค่นั้นค่ะ ก็ได้ออกมาประมาณตามรูปนี้เลยนะคะ ปลื้มค่ะ ช่วงนั้นไปบิน คิ้วก็ไม่ต้องเขียน ขนตาก็ไม่ต้องติด 

** บล๊อกรีวิวการต่อขนตาปลอม กับ TINGLE อุ๋มขอแยกเป็นอีกบล๊อกต่างหากนะคะ **


 ว่าแล้วก็เริ่มการสักกันเลยค่ะ ...

ตอนช่วงการสักนั้น ถ้าถามว่า เจ็บไหม?

แม้ว่าจะแปะยาชานานสะใจแล้วก็ตาม แต่ก็ต้องตอบตามตรงว่าก็มีช่วงที่เจ็บบ้างนะคะ เพราะ ขั้นตอนการสักคือการใช้อุปกรณ์หัวแหลม คล้ายปากกา ค่อยๆ บรรจงวาดเส้นขนคิ้วทีละเส้นๆ เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด ช่วงที่เจ็บจะเป็นช่วงที่ย้ำรอบที่ 2-3 เพราะ ผิวเริ่มบางลงค่ะ พอย้ำๆ เข้า ช่วงโหนกคิ้ว ก็เจ็บเหมือนกันค่ะ 

แต่เผื่อความสวย ต้องทนนะ สู้! ถ้าอุ๋มกล้าทำ อุ๋มฟันธงเลยว่า สาวๆ ทุกคนทำได้ค่ะ เพราะอุ๋มนั้นขี้ใจฝ่อ สุดๆ!!




ตอนหลังการทำ จะมีความรู้สึกแสบๆ เล็กน้อย เหมือนเป็นแผลแค่นั้นค่ะ  

ช่วง 24 ชั่วโมง หลังการสัก ห้ามโดนน้ำเด็ดขาดนะคะ และในช่วงสัปดาห์แรกต้องทายาไว้เสมอค่ะ อุ๋มแนะนำว่าช่วงนี้ งดการออกกำลัง กายที่เหงื่อออกมากๆ เพราะ จะส่งผลต่อสีของคิ้วเช่นกันค่ะ ไม่โดนน้ำเลยคือดีที่สุด แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ต้องโปะยาเข้าไว้ให้หนาเลยนะคะ คิ้วที่สักมาจะได้ไม่พังค่ะ

ผ่านไปได้ ซักสัปดาห์นึง พอสะเก็ดลอกหลุดออกไป สีคิ้ว เริ่มจางลง แต่ที่น่าเศร้า คือ ขนตาก็เริ่มหลุดแล้วค่ะ เพราะอายุของขนตาที่ต่อคือ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก็ควรจะไปถอดออกแล้วต่อใหม่ค่ะ ไม่งั้นขนตาจะไม่สม่ำเสมอ เพราะก็จะมีส่วนที่หลุดร่วงไปบ้างตามขนตาธรรมชาติของเราค่ะ 
 


ช่วงแรกๆ ของการสักคิ้ว ประมาณ 2 สัปดาห์ ต้องดูแลเป็นพิเศษนะคะ คือต้องทายา ลดการระคายเคือง และ ห้ามเกาเด็ดขาดค่ะ !! เพราะ ว่าเราจะคัน ยุบยิบๆๆ อยากจะเกามาก แต่เพื่อความสวย อีกเช่นเคย ต้องอดทนนะคะ ไม่งั้นสีที่สักมาจะหลุดออก ทำให้สีไม่สม่ำเสมอ และไม่สวยน้า เอาเป็นว่า ห้ามทำอะไรเลย ป้ายยาที่ทาง TINGLE ให้มาอย่างเดียวพอค่ะ แล้วรอเวลา ให้สะเก็ดลอกออกเอง ตามนั้นน


ไปบินไฟลท์ยาวแค่ไหน ไม่ต้องห่วงว่าคิ้วจะหายค่ะ แลนด์ลงมา คิ้วเต็ม หน้าเต็ม พร้อมออกไปเที่ยว ไปช๊อป ตลอดเวลา ชอบจริงๆ ค่ะ



ส่วนเรื่องกลัวว่าหน้าโล้นแล้วมีคิ้วจะตลก อุ๋มขอบอกเลยค่ะว่า เมื่อสีของคิ้ว เข้าที่แล้วนั้น คิ้วที่อุ๋มทำมากับทาง TINGLEม่ได้ดูเยอะ โบ๊ะ โป๊ะแตก เลย คือ สวย และดูธรรมชาติ มาก แม้ในวันที่แต่งหน้าน้อย หรือแม้กระทั่งไม่แต่งหน้าเลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ด้านบนนี่ ไม่แต่งหน้าเลย 

ไปฟิตเนส ไปว่ายน้ำค่ะ คือ เก๋นะ มีคิ้วตลอด ฮ่าๆๆๆ


 
 ราคาในการสักคิ้วกับทาง TINGLE
ราคาการสักคิ้ว 3 มิติ อยู่ที่ 13,900 บาท ค่ะ 
โดยจะทำ การสัก 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกและมาย้ำครั้งที่สอบภายใน 3 เดือน
หลังจากนั้น คิ้วสวยๆ ก็อยู่บนใบหน้าเราอีก 2-3 ปีเลยค่ะ ซึ่งสีจะอ่อนลงตามเวลานะคะ



ส่วนในวันที่แต่งหน้าก็หมดห่วงค่ะ สวยแน่นอน คิ้วเท่าแน่นอน ไม่ต้องกังวลเลยจริงๆ 

ถ้าสาวๆ อยากคิ้วเป๊ะ แต่ยังไม่กล้าสัก อุ๋มแนะนำให้ลองไป แว๊กซ์คิ้ว หรือบริการ Eyebrow Shaping ของที่ TINGLE ดูก่อนก็ได้ค่ะ เพราะ แว๊กซ์คิ้วกับที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่การถอนขนคิ้วทั่วๆ ไปนะคะ แต่เป็นการออกแบบคิ้วตามโครงหน้าของแต่ละคน ซึ่งก็จะมีขั้นตอนการวาดโครงคิ้วก่อนแว๊กซ์เหมือนก่อนอุ๋มสักคิ้วเลยค่ะ และพอแว๊กซ์ขนส่วนเกินออก ก็จะทำการเล็มขนคิ้วให้เข้าทรงสวย 

นี่อุ๋มก็ต้องเข้าไปทำบ้างแล้ว ขนคิ้วยาว ลกไป จะดูเหมือนไม่ดูแลตัวเองค่ะ :)


 ความรู้สึกของอุ๋มหลังการสักคิ้ว 3 มิติ กับ TINGLE

เวลาผ่านไปเกือบ 3 เดือนแล้ว บอกตามตรงเลยว่า แฮปปี้สุดๆๆ ค่ะ ทั้งง่ายต่อการทำงาน ที่ต้องแต่งหน้าตลอด ตื่นไม่เป็นเวลา บางวันมีเวลาแต่งหน้าน้อย ก็ยังไม่ต้องกังวล ตัดปัญหาเรื่องเวลาแต่งหน้าไปได้เยอะค่ะ ขอขอบคุณร้าน TINGLE ที่เนรมิตคิ้วให้ มา ณ บล๊อกนี้ด้วยนะคะ ถูกใจทรงนี้มากเลยค่ะ

และอุ๋มจะกลับไปเติมรอบ 2 พร้อมกับต่อขนตา กับที่ TINGLE อีกอย่างแน่นอนค่ะ (บล๊อกรีวิวการต่อขนตา วิธีการดูและ และ ข้อดี-ข้อเสีย ของการต่อขนตา อุ๋มขอไปโพสต์ต่อในบล๊อกหน้านะคะ เพราะว่ามีรายละเอียดเยอะเลยที่อยากพูดถึง 


รายละเอียดของร้าน TINGLE ตามนี้เลยค่ะ




การเข้ารับบริการ Micropigmentation ที่ TINGLE ต้องโทรจองคิวก่อนเสมอนะคะ เนื่องจากต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำ และเป็นงานละเอียดค่ะ โดยสาขาของทาง TINGLE มีดังนี้ค่ะ
- สาขา Esplanade รัชดา เบอร์โทร  02-660-9369


- สาขา Gaysorn Plaza ซึ่งย้ายมาจาก สาขา All Season Place ติดต่อได้ที่เบอร์ 081-829-9905 ค่ะ
หลังจากนัดแล้วทาง TINGLE จะโทรกลับมาคอนเฟิร์ม 1 วันล่วงหน้านะคะ ไปทำแล้วเป็นอย่างไร อย่าลืมมาเล่าให้อุ๋มฟังบ้างนะคะ :)