2.22.2015

[REVIEW] ต่อขนตา ที่ TINGLE แบบ Sweetheart และ แบบ Superstar

สวัสดีค่า PannitaP Blog ในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากบล๊อกที่แล้วที่อุ๋มพูดถึงการทำ Micropigmentation รวมถึง การต่อขนตา กับ TINGLE ค้างไว้ค่ะ บล๊อกนี้ อุ๋มจะมา พูดถึงเรื่องต่อขนตา อย่างเดียวเลย :) เพราะว่ามีรายละเอียดหลายอย่างที่อยากพูดถึง รวมถึงการดูแลขนตาด้วยค่า


 การต่อขนตาที่ TINGLE เป็นการต่อแบบเส้นต่อเส้นค่ะ เส้นขนตาเป็นไหมคุณภาพสูงนำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งมีน้ำหนักเบามากๆ แบบของการต่อนั้นก็มีหลายแบบคะ พี่ที่ร้านจะดูจากรูปดวงตาของเรา และสภาพขนตาที่มีอยู่แล้วเป็นพื้นฐานด้วยค่ะ ว่าสามารถต่อได้มากขนาดไหน กี่เส้น รวมทั้งควรจะทำแบบไหน ก็จะมีตั้งแต่ ตาหวาน ตาเซ็กซี่ แบบธรรมชาติ แบบหนาปัง ยาวหรือสั้น บางหรือหนา อันนี้คุยกับพี่ๆ ผู้เชี่ยวชาญได้เลยค่ะ


แบบที่อุ๋มเลือกต่อในครั้งแรกที่ไปต่อ คือ แบบ "Sweetheart" คือ แบบตาหวาน ขนตาช่วงกึ่งกลางดวงตาจะยาวกว่าด้านข้าง ทำให้ตาหวานค่ะ ต่อ ข้างละ 120 เส้น ค่ะ

จำนวนเส้นของขนตา นั้นก็ขึ้นอยู่กับขนตาของเราด้วยค่ะ สมมติว่าอุ๋มมีขนตาข้างละ 120 เส้น จะอยากต่อหนา 150 เส้น แบบนั้นก็จะทำไม่ได้ค่ะ เพราะว่า วิธีการต่อนั้นคือการต่อกับขนตาจริงเรา ซึ่งจะทำให้ดูเป็นธรรมชาติ เพราะฉะนั้น ก็ไม่ควรจะต่อมากกว่าจำนวนเส้นขนตาที่เรามีอยู่ค่ะ ต่อมากเกินไป ขนตาจริงต้องรับน้ำหนักขนตาที่ต่อก็จะหนัก ไม่งอน ไม่เด้งสวยนะคะ

 ความยาวของขนตา ซึ่งเป็นไหมญี่ปุ่นนั้น อยู่ที่เบอร์ 9-13 ค่ะ (ยาวสุดเบอร์ 15) ซึ่งจะเน้นความยาวช่วงกึ่งกลางดวงตา ทำให้ตาดูกลมโต และหวานแหวว เป็นที่สุด ผลออกมาก็สวยงามตามท้องเรื่องค่ะ งามกว่าตอนไม่มีขนตาเป็นอย่างยิ่ง


 จะสังเกตได้ว่าขนตาด้านขวาของอุ๋มนั้นสั้น และยังขึ้นไม่สม่ำเสมอ นั่นเป็นผลมาจากการต่อขนตาครั้งก่อน อุ๋มเอาออกไม่ถูกวิธีค่ะ คือไม่ได้ไปถอดที่ร้านด้วยเครื่องมือ และน้ำยาที่เหมาะสม การขยี้ตาแรง หรือดึงขนตาที่ต่อออกนั้น ทำให้ขนตาจริงล่วงไปด้วย ต้องระวังเป็นอย่างยิ่งค่ะ

ดังนั้น เมื่อต้องการจะ ถอดขนตาที่ต่อออก อุ๋มแนะนำว่าควรกลับไปให้ทางร้านถอดออกให้ค่ะ เพราะ จะได้ไม่เจ็บ ไม่ขนตาหายเป็นช่วงๆ รวมทั้งปลอดภัยต่อขนตาจริงมากที่สุดค่ะ


รูป ก่อนและหลัง ของการต่อขนตา รวมทั้งการทำ Micropigmentation ครั้งแรกกับทาง TINGLE ค่ะ
 
โดย ส่วนตัวแล้ว อุ๋มชอบการต่อขนตาค่ะ และคิดว่าจะต่ออีก แต่ว่าการต่อขนตาแต่ละครั้ง ควรให้ขนตาของเราได้พัก และ ต้องดูแลบำรุงขนตาอยู่เสมอ นะคะ สมมติว่าถ้าเดือนนี้อุ๋มต่อขนตา เดือนหน้าพอถอดขนตาออกแล้วอุ๋มก็จะปล่อยให้ตาได้พักสักเดือนนึงค่ะ ต่อเท่าไหร่พักเท่านั้น แล้วค่อยว่ากันใหม่ ไม่ใช่ต่อตลอด เพราะขนตาเราเองก็ต้องพักเช่นกันค่ะ การต่อขนตาก็เหมือนให้ตาเราอุ๋มขนตาอีกเส้นนึงไว้ ต้องให้พักกันบ้างน้า นี่อุ๋มเว้นมาแล้ว 2 เดือน เลยเริ่มต่อใหม่ค่ะ มาดูการต่อครั้งที่ 2 ของอุ๋มบ้างค่ะ ครั้งนี้เปลี่ยนแบบด้วย :)

 ความรู้สึกตอนต่อขนตาทั้ง 2 ครั้ง ก่อนจะเริ่มต่อขนตานั้น ที่ TINGLE จะมีการแปะ Under Eye Mask เพื่อบำรุงช่วงใต้ตาให้ด้วยค่ะ แผ่นมาร์สเย็นสบายมากก เริ่มแปะ ก็เริ่มหลับแล้ว ฮ่าๆๆ เนื่องจากระหว่างต่อขนตานั้นเราจะไม่สามารถลืมตาได้ รวมทั้งไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะ พี่ที่ทำทั้ง 2 ครั้งมือเบามากๆ ค่ะ ความรู้สึกจั๊กจี๋นิดหน่อย เหมือนมีคนจับขนตาเราเล่นแค่นั้นเองค่ะ ระหว่างต่อมีแสบตาบ้าง เพราะกาวค่ะ แต่พอแสบก็บอกพี่ที่ต่อ แป๊บเดียวก็หายค่ะ

ระยะเวลาในการต่อขนตา ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับแบบ และจำนวนเส้นเลยค่ะ 

ดังนั้น อุ๋มแอบแนะนำว่า ก่อนต่อควรเตรียมตัวให้พร้อม ทานน้ำ ทานข้าว (ห้ามอิ่มเกินนน เดี๋ยวเป็นกรดไหลย้อน) เข้าห้องน้ำ และเตรียมตัวห่มผ้าหลับพร้อมตื่นมาเจอตาสวยๆ ได้เลยค่ะ


ความรู้สึกหลังต่อเสร็จ อุ๋มชอบทุกครั้งหลังต่อขนตาเสร็จค่ะ เพราะว่า ตาจะสวยและดูตาเท่ากันมากๆ อันนี้ไม่แน่ใจว่าคนอื่นเป็นไหม แต่ตาอุ๋มเวลาตื่นนอนมักจะไม่เท่ากัน พอต่อขนตาปุ๊บ จะดูไม่ค่อยออกว่าตาไม่เท่ากัน แห่ะๆ เลยเลิฟ มีสาวๆ ถามว่ารู้สึกเจ็บช่วงหนังตาไหม ต่อที่ TINGLE มา 2 ครั้ง อุ๋มตอบได้เลยว่า ความรู้สึกแทบไม่ต่างกับตอนไม่ต่อเลยค่ะ ไม่หนัก ไม่เจ็บตา ไม่ระคายเคือง หรือคันตา แม้แต่ตอนเหงื่อออกหลังออกกำลัง ล้างหน้า หรืออาบน้ำ ก็ไม่รู้สึกค่ะ ตอนต่อครั้งแรกอาจมีงงๆ เผลอขยี้ตาแรงบ้าง แต่ระยะนึงก็จะชินค่ะ 


ครั้งนี้เลือกต่อแบบ "Superstar" คือ ต่อแบบเน้นยาวช่วงหางตาค่ะ ดวงตาจะออกลุคเซ็กซี่หน่อยค่ะ ต่อ ข้างละ 120 เส้น เหมือนเดิมค่า

ขนตาอยู่ได้นานเท่าไร จากประสบการณ์ส่วนตัวขนตาที่ต่อของอุ๋มจากครั้งแรกที่ต่อนะคะ ขนตาจะสวยอยู่ถึงสัปดาห์ที่ 2-3 ค่ะ หลังจากกลางสัปดาห์ที่ 3 ไป จะมีร่วงบ้าง ขนตาแหวกบ้าง เพราะว่าบางทีไปบินเลี่ยงการใส่ที่ปิดตาไม่ได้ ก็ไปทำร้ายขนตาที่ต่อค่ะ และประมาณ 1 เดือนขนตาก็จะเริ่มร่วงไปจนเกือบหมดค่ะ อันนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของแต่ละบุคคุลด้วยค่ะ

การดูแลรักษา นี่ละคะเรื่องยากของอุ๋ม เนื่องจากอุ๋มต้องแต่งหน้าอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเวลาล้างเครื่องสำอางออกจากดวงตาต้องระวังเป็นพิเศษๆๆๆ พิเศษมากๆ วิธีการคือ ล้างให้โดนขนตาน้อยที่สุด และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมค่ะ เพราะจะทำให้กาวต่อขนตาเสื่อมสภาพ และทำให้ขนตาที่ต่อร่วงค่ะ และพอเช็ดด้วยสำลีนั้น สำลีก็ชอบไปติดตรงขนตาที่ต่อ หรือรอยต่อระหว่างขนตาอีก ดังนั้นวิธีการของอุ๋มคือใช้ คอทตอนบัด กับ remover สูตรน้ำที่อ่อนโยนค่ะ ยี่ห้อที่อุ๋มใช้คือ BYPHASSE เลยค่ะ เพราะว่าอ่อนโยนกับผิวหน้าและดวงตามากๆ


ราคาของการต่อขนตาที่ TINGLE นั้นจะนับเป็นเส้น เส้นละ  10 บาท ค่ะ อุ๋มต่อข้างละ 120 เส้น 2 ข้าง 240 เส้น ก็ รวมเป็น 2,400 บาท ค่ะ
 
ราคาค่าถอดขนตาออก ถอดออกเฉยๆ ไม่ได้ต่อใหม่จะคิดราคา 300 บาทต่อครั้งค่ะ แต่ถ้าจะต่อใหม่ทันที ไม่มีค่าบริการค่ะ

 

อุ๋มจะขอพูดถึง ข้อดี และ ข้อเสีย ของการต่อขนตา อันนี้เป็นความคิดส่วนตัว ประกอบการตัดสินใจนะคะ เพราะเพื่อนๆ แอร์ของอุ๋มก็ถามกันเยอะว่าควรหรือไม่ควรต่ออย่างไร เอาเป็นว่าอันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วยค่ะ

ข้อดีของการต่อขนตา 

- ชีวิตง่ายขึ้นเมื่อไม่ต้องแต่งตามากก็มีดวงตาสวยๆ ออกจากบ้านได้ไวค่ะ
- ลืมการปัดมาสคาร่า หรือ ติดขนตาปลอม ไปได้เลย 
- ลดปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา เพราะ พอไม่ปัดมาสคาร่า ก็ลดการถูๆๆ รอบดวงตาเวลาล้างค่ะ
    - เทียบกับการติดขนตาปลอมแล้ว ใช้เวลาน้อยกว่า รวมทั้งเบากว่ามากมายค่ะ

ข้อเสียของการต่อขนตา

- ช่วงที่ขนตาเริ่มร่วง จะมีช่วงที่ไม่สวย ช่วงแหว่ง ต้องไปเติมค่ะ
- ถ้าเป็นคนชอบขยี้ตา จะดึงทั้งขนตาที่ต่อ และขนตาจริงของเราออกไปด้วยค่ะ
- ในวันที่จำเป็นต้องแต่งหน้าเยอะๆ จริงๆ  ตอนล้างเครื่องสำอางที่ตา จะต้องค่อยๆ ค่อยมากๆ เวลาเช็ดทำความสะอาด ไม่งั้นอาจทำให้ขนตาที่ต่อมาหลุดได้ง่ายค่ะ


 
อุ๋มขอจบการรีวิวไว้เพียงเท่านี้ค่ะ หวังว่าการรีวิวครั้งนี้จะช่วยประกอบการตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อยนะคะ :) แล้วเจอกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ

No comments: